ดาบพิฆาตอสูร ซีซัน 3 ได้จบลงไปแล้ว และซีซัน 4 กำลังจะมา โดยในซีซัน 3 ได้นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยการเปิดเผยอันทรงพลัง
เราได้เตรียมภาพรวมโดยละเอียดไว้ในบทความอธิบายตอนจบของดาบพิฆาตอสูร ซีซัน 3 สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ ซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในตอนพิเศษ 70 นาที
นี่คือผลกระทบของเหตุการณ์ในตอนจบ รวมถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่อการต่อกรกับ มุซัน หัวหน้าของอสูรทั้งหมด ซึ่งเป็นศัตรูหลักของซีรีส์
คำเตือน: มีเนื้อหาสปอยล์หากคุณยังไม่ได้รับชม ดาบพิฆาตอสูร ซีซัน 3 สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ
- คอสเพลย์ Doma จาก ดาบพิฆาตอสูร ที่ดูงดงามและชวนขนลุกในเวลาเดียวกัน
- ดาบพิฆาตอสูร: ใครคืออสูรตนแรกของเรื่อง
อธิบายตอนจบดาบพิฆาตอสูร จบซีซัน 3 สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ
มีหลายสิ่งที่ต้องคลี่คลายในตอนจบของซีซัน 3 ซึ่งมีชื่อว่า “สายสัมพันธ์ที่ถูกประสาน ฟ้าสลัวและเช้าที่สดใส” เราได้เห็น คามาโดะ ทันจิโร่, คามาโดะ เนซึโกะ และ ชินาซึกาวะ เก็นยะ ไล่ตามร่างหลักของ ฮังเทนงู ในขณะเดียวกัน คันโรจิ มิซึริ เสาหลักความรัก ก็ปกป้องตัวเองอย่างกล้าหาญจาก “ปีศาจความเกลียดชัง” อสูรระดับสูงที่สามารถควบคุมมังกรไม้ได้
ทันจิโร่ จำการสนทนากับเพื่อนของเขาอย่าง เซนอิทซึ ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจวิธีใช้ปราณสายฟ้า ด้วยความรู้นี้ ทันจิโร่สามารถไล่ตาม ฮังเทนงู ได้สำเร็จ ในการต่อสู้อันดุเดือดที่เกี่ยวข้องกับทันจิโร่ เนซึโกะ และเก็นยะ พวกเขาสามารถไล่ต้อน ฮังเทนงู ได้จนทำให้เขาตกหน้าผาลงไป
ด้วยความหวังที่จะฟื้นพลัง ฮังเทนงู จึงพยายามกลืนกินชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่ทันจิโร่กำลังจะไล่ตาม ซึ่ง ทันจิโร่ที่กำลังไล่ตามก็ได้รับดาบนิจิรินอายุ 300 ปี จาก โทคิโท มุอิจิโร่ เสาหลักหมอก
ด้วยการใช้พลังผสมผสานของปราณสายฟ้า และระบำเทพอัคคี ทำให้ทันจิโร่สามารถเอาชนะฮังเทนงูได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนั้น ทันจิโร่ก็รู้ว่าฮังเทนงูยังไม่ตาย โดยฮังเทนงูได้แอบร่างจริงของเขาไว้ในหัวใจ
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มขึ้น ทันจิโร่ต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก โดยเขาต้องเลือกว่าจะช่วยชาวบ้านจากความโกรธเกรี้ยวของฮังเทนงู หรือช่วยเหลือเนซึโกะ ซึ่งกำลังถูกแสงแดดจากดวงอาทิตย์เผาร่างกาย
เมื่อพี่ชายของเธอดิ้นรนในการตัดสินใจ เนซึโกะจึงตัดสินใจจับทันจิโร่โยนออกไป ทำให้ทันจิโร่สามารถตัดสินใจได้และสังหารอสูรข้างขึ้นลำดับที่ 4 ได้สำเร็จ แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อทันจิโร่ได้ค้นพบว่าน้องสาวของเขากลับทนต่อแสงแดดได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องนี้ได้รู้ถึง มุซัน แม้ว่าอสูรข้างขึ้นของเขาสองตนจะต้องเสียชีวิตไป แต่เขาก็ได้ค้นพบความจริงที่เขาพยายามค้นหามาตลอด โดยจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของมุซันคือดวงอาทิตย์ หากเขากลืนกินปีศาจที่มีพลังในการเอาชนะแสงแดด ในที่สุดเขาก็จะกลายเป็นอมตะ
เป็นเวลากว่าพันปีที่ มุซัน รวมตัวเข้ากับสังคมมนุษย์เพื่อค้นหาดอกลิลลี่แมงมุมสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่แพทย์ของเขาใช้ในขั้นตอนการทดลองที่ทำให้เขากลายเป็นปีศาจตัวแรก เขาเชื่อว่านี่เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการเอาชนะความอ่อนแอของเขาต่อแสงแดด
ทางออกที่สองของ มุซัน คือสร้างปีศาจเพิ่มขึ้นและใช้ตัวหนึ่งที่มีภูมิคุ้มกันต่อแสงแดด และตอนนี้เขาก็ได้พบแล้ว
เหตุการณ์ต่างๆ ในซีซัน 3 จะปูทางไปสู่ภาคที่กำลังจะมาถึงอย่างไร
การเปิดเผยว่าเนซึโกะมีความสามารถในการทนต่อแสงแดดเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในซีรีส์ ดาบพิฆาตอสูรทั้งหมด
มุซัน ไม่คิดว่าหน่วยพิฆาตอสูรเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ เพราะปีศาจของเขาเหนือกว่ามากตลอดหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเหล่านักล่าอสูรมีบางสิ่งที่เขาต้องการ สิ่งนี้จะนำไปสู่การปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
ฉากสำคัญอีกฉากหนึ่งในตอนจบของตอนที่ 3 คือการที่ ทามาโยะ อธิบายการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ของเธอในจดหมายถึงทันจิโร่ ซึ่งหมายความว่าเธอสามารถปลดปล่อยปีศาจจากการควบคุมของมุซันได้
เมื่อศึกษาเลือดของเนซึโกะ ทามาโยะได้ค้นพบว่าเนซึโกะไม่สามารถฟื้นความรู้สึกของตัวเองได้ และยังคงอยู่ในสภาพเหมือนเด็กเพราะเธอให้ความสำคัญกับบางสิ่งที่สำคัญกว่าตัวเธอเอง
เรื่องราวของ เนซึโกะ เป็นจุดสนใจของซีรีส์นี้มาโดยตลอด เธอเป็นปีศาจที่ไม่กินเนื้อหรือเลือดมนุษย์ และเธอยังช่วยพี่ชายของเธอและมนุษย์คนอื่นๆ นับครั้งไม่ถ้วน
แม้แต่วิชามนต์เลือดอสูรของเธอก็ยังมีพลังที่ใช้ทำร้ายอสูรเท่านั้น เนซึโกะเป็นปีศาจตนเดียวที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเธอถึงมีความสามารถในการทนต่อแสงแดด
สินค้าอนิเมะที่คุณอาจสนใจ
อ่านเพิ่ม: ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ การฝึกฝนของเสาหลัก: วันฉาย เรื่องราว ตัวอย่าง
