รายการ Midas Mode 2.0 โซนเอเชียรอบชิงชนะเลิศระหว่าง Vici Gaming กับ Fnatic ที่นำโดย 2 ผู้เล่นชาวไทย อนุชา ‘Jabz’ จิระวงศ์ และ หนึ่งนรา ’23savage’ ธีรมหานนท์ แข่งขันในระบบ Best of 5

เกมแรกเป็นฝ่าย VG ที่สามารถออกนำไปก่อน 1-0 เกม แต่ก่อนช่วงเข้าสู่เกมที่ 2 ฝั่ง VG เกิดปัญหาขึ้น เมื่อทีมมีเหตุไม่สามารถแข่งต่อจนจบการแข่งขันได้ในระบบ Best of 5 อีกแล้ว ทำให้ต้องคุยไกล่เกลี่ยให้ทาง Fnatic เข้าใจเสียก่อน เพราะว่ากันตามตรง Fnatic มีเงิน Moonbuck มากกว่าเยอะจากการเข้ามารอจากการเป็นผู้นำกลุ่ม ถ้าเล่นเกมยาวยังไงก็ได้เปรียบ

สุดท้ายทั้ง 2 ทีมก็ตกลงกันด้วยดี เกมแรกที่แข่งไปจะไม่นับผล แล้วทำการแข่งเกมเดียวตัดสินแชมป์เลยทันที กลายเป็น Best of 1 ในรอบชิงชนะเลิศแทน

รูปเกมออกมาด้าน Fnatic ทั้งเกม พวกเขาคุมพื้นที่ได้ดีมาก รวมถึงการทำทีมไฟท์ต่างๆ ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยชัยชนะแล้วคว้าแชมป์เรียกขวัญกำลังใจให้ทีม แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

เมื่อ Phantom Assassin ของ Zhang ‘Eurus’ Chengjun ออกไอเทม Divine Rapier ทำให้รูปเกมเริ่มเทกลับมาทาง VG อย่างเห็นได้ชัด พอ Fnatic เริ่มปิดเกมไม่ลงก็กลายเป็นทีสวนกลับของทีมแดนมังกรอย่างเต็มรูปแบบ

จังหวะผิดพลาดอย่างน่าเสียดายที่สุด เป็นจังหวะที่ Faceless Void ของ 23savage ตายแบบไม่มีซื้อเกิด ทำให้ทีมไฟท์ของทีมเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด และเปิดหนทางสู่ความพ่ายแพ้จากการโดนตีป้อมปิดบ้านจากฝั่ง VG

เกมเหมือนใกล้จะจบลง 23savage ยังไม่ยอมแพ้ รีบขายไอเทมเพื่อซื้อรีเฟรชสกิลมาใช้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะขายผิดไอเทม เผลอกดขาย Black King Bar คีย์สำคัญไว้ป้องกันสกิลจากฝั่งตรงข้าม ทำให้ป้องกันบ้านไม่สำเร็จ พ่ายไปแบบน่าเสียดาย

การได้แชมป์ของ VG ก็เป็นการเรียกกำลังใจที่ดีให้กับทีมเช่นกัน หลังโชว์ผลงานสุดบู่ในรอบเมนอีเวนท์ The International 2019 ส่วนด้าน Fnatic ที่มาแข่งแบบไม่ครบทีม เรียกได้ว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ลองแผนที่จะใช้เตรียมแข่งรอบคัดเลือกเมเจอร์ และสถานที่ปรับตัวของ 23savage ให้เข้ากับทีมได้ดียิ่งขึ้น

โปรแกรมต่อไปของ Fnatic รอบคัดเลือกไปทัวร์เมเจอร์และไมเนอร์ ในวันที่ 5 ตุลาคมที่จะถึง