รายการ Para Bellum 2020 Dota2 Tournament ที่มีผู้จัดเป็น OMU.GG แอพพลิเคชันโซเชียลมีเดียสำหรับเกมเมอร์ กำลังจะเปิดฉากการแข่งขันเกม Dota 2 แมทช์แรกในช่วงบ่ายวันที่ 29 มกราคม 2020 นี้ แต่เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา ทาง Valve ได้ประกาศอัปเดตแพทช์ 7.24 ซึ่งเป็นแพทช์ใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าเกมมากพอสมควร ทั้งการนำ Shrines ออก การย้ายตำแหน่ง Outposts และอื่นๆอีกมาก ส่งผลให้มีเวลาปรับตัวก่อนเริ่มแข่งแค่ 2 วันเท่านั้น 

ONE Esports ได้ไปสัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้เล่นตัวแทนแต่ละทีมที่ลงแข่งทั้ง 6 ทีม ว่ามีการเตรียมตัวแข่งอย่างไรบ้าง, วิธีการรับมือกับ 2 ฮีโร่ใหม่ Snapfire และ Void Spirit รวมถึงการปรับไปใช้งานในแผนของทีม, และความมั่นใจในการคว้าแชมป์

My Pro (ออฟเลนทีม Slayers Guild)

“เราเตรียมทีมมาดีกันอยู่แล้ว แต่พอเจออัปเดตแพทช์ใหม่ก็ค่อนข้างใจหายพอสมควร ทำให้ต้องซ้อมการเคลื่อนที่บนแมพใหม่หมดเนื่องจากสามารถยึด Outpost ฝั่งตรงข้ามได้เลยตอนเริ่มเกม ส่วน 2 ฮีโร่ใหม่ที่เข้ามา ทีมรับมือได้ไม่ยาก เพราะต้องเจอในแร็งค์เกมบ่อยอยู่แล้ว และคาดว่าจะนำ Snapfire มาใช้งานในตำแหน่งซัพพอร์ท”

“ผมมีความมั่นใจประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ที่จะคว้าแชมป์ได้ เนื่องจากทีมเราก็เป็นรองคู่แข่งหลายทีมมาก และผมก็มาในฐานะแสตนด์อินอีก แต่ถ้าเป็นท็อป 3 ของรายการ เราสามารถทำได้แน่นอนครับ” 

Boombell (ซัพพอร์ท 4 ทีม Motivade.Trust Gaming) 

“ทั้งทีมซ้อมกันหนักขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 เซ็ตต่อวัน และมีการเล่นพับบลิคเกมมากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกับแมพในเกมที่เปลี่ยนไป สำหรับฮีโร่ใหม่ทีมเรามีแผนรับมือกันอยู่แล้ว เนื่องจากคนในทีมเล่นสองตัวนี้เป็น ซึ่งทีมเราก็เตรียมแผนไว้เล่นกับ 2 ฮีโร่นี้อยู่แล้วด้วย แต่ถ้าเกมไหนไม่อยากเจอจริงๆคงต้องแบนไปเลย”

“ทีมค่อนข้างมั่นใจประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะคว้าแชมป์ได้ เพราะทีมที่มาแข่งเราก็เคยซ้อมด้วยกันมาหมดแล้ว ทำให้รู้ถึงสไตล์และแนวทางการเล่นของทุกๆทีม”

Seri (ออฟเลนทีม MS Chonburi)

“เราไม่ได้เปลี่ยนระบบการเล่นตามแพทช์อะไรมาก ยังคงเล่นตามรูปแบบที่เราซ้อมกันมา ส่วนการรับมือ 2 ฮีโร่ใหม่ เราใช้วิธีการปล่อยให้คู่แข่งเลือกเล่นเพื่อจะได้เรียนรู้วิธีการรับมือกับมัน แต่จะมีการนำมาใช้เองเพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้กับทีม และสำหรับเรื่องการสื่อสารภายในทีมไม่มีปัญหากันแต่อย่างใด เพราะทุกคนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการคุยกันทั้งทีม”

“เราไม่ได้คิดถึงเรื่องการคว้าแชมป์ ผมอยากให้คนในทีมเล่น Dota ในรูปแบบที่เราฝึกซ้อมกันมาอย่างถูกต้องมากที่สุด ทำให้ไม่ได้คิดถึงปลายทางของการแข่งขันนี้เลย”

Shanks (ซัพพอร์ท 4 ทีม Sterling Global Dragon)

“มันค่อนข้างที่จะส่งผลกระทบเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้ทีมได้ฝึกซ้อมในแพทช์เก่ามาเป็นเดือนแล้ว ทำให้เมื่อมีการอัปแพทช์ใหม่เข้ามา ทีมยังไม่ค่อยทราบวิธีเล่นในแพทช์ปัจจุบันมากนัก ส่วน 2 ฮีโร่ใหม่ ผมคิดว่าทีมอื่นๆคงจะแบนกันหมด แต่ถ้ามีโอกาสเราก็จะหยิบมาใช้งาน”

“พวกเราจะแข่งให้เต็มที่มากที่สุด เพราะเราเคารพความสามารถของทุกๆทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมตัวแทนจากประเทศไทย”

Lordboonz (ซัพพอร์ท 5 Team Oracle)

“เราไม่ได้กลัวกับแพทช์ใหม่ที่มาถึง ทีมเรายังคงซ้อมกันในรูปแบบเดิม ใช้สไตล์แบบเดิม ส่วน Snapfire เป็นฮีโร่ที่ค่อนข้างเก่งมาก แต่เราไม่ค่อยอยากใช้งานมันเนื่องจากมันค่อนข้างเสียเวลาทุ่มเทให้กับฮีโร่หนึ่งตัวมากจนเกินไป และผมมั่นใจมากว่าทีมของผมจะต้องได้แชมป์”

you_K (ซัพพอร์ท 5 ทีม Army Geniuses)

“ผมอาศัยการฝึกซ้อมร่วมกับทุกๆทีมที่เข้าแข่งทั้ง 8 ทีม และซ้อมอย่างหนักกับทีมอื่นๆที่เก่ง นี่เป็นแนวทางการซ้อมแผนของพวกเรา สำหรับ 2 ฮีโร่ใหม่นี้ก็เป็นหนึ่งในแผนของทีมเราด้วยเช่นกัน”

“เราค่อนข้างเคารพคู่แข่งทุกๆทีม เราจะเล่นให้สนุกที่สุด และสุดท้ายเราเชื่อว่าทีมของเราจะสามารถไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างแน่นอน”

สำหรับรอบเมนอีเวนท์จะทำการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2020 ณ GG Arena Esport Hall Siam Square One ชั้น 3 ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 5 แสนบาท