Valorant มีตัวเลือกบางอย่าง เช่น Nvidia Reflex และ Raw Input Buffer (Beta) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในเกม อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกเหล่านี้อาจจะไม่ได้ให้มีประโยชน์ขนาดนั้นถ้าเราไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้

เป็นการดีกว่าที่จะทราบว่าฟีเจอร์ต่างๆทำงานอย่างไรในวิดีโอเกม และ Raw Input Buffer (Beta) ก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติดังกล่าวในเกมยิงของ Riot ที่ช่วยได้อย่างมาก

เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลา มาเรียนรู้วิธีการทำงานของฟีเจอร์นี้และช่วยคุณตัดสินใจว่าควรเปิดใช้งานหรือไม่?


สินค้า Valorant ที่คุณอาจสนใจ

สินค้าราคาส่วนลด
Keycap Valorant ปุ่มคีย์บอร์ดโลโก้ Valorant฿5934%
โมเดล VALORANT SKIN Reaver Karambit Reaver Karambit พร้อมซองหนัง฿3595%
CARNIVAL® x Talon x Loga “Mantra WP XXL”฿1,690
Valorant ขายดี ภาพโปสเตอร์ ผ้าแคนวาส พิมพ์ลายอนิเมะ฿175 – ฿22940%
Valorant Reyna’s Leer Skill Keycap Collection XDA-OEM฿400

AYRIN อดีตโปร Valorant ผันตัวร่วมงานหลังบ้าน Riot Games
Clove ลงเปิดตัวประเดิมเกมแรกในลีก VCT โดยทีมจีน

Raw Input Buffer (Beta) ใน Valorant ทำงานอย่างไร?

Raw Input Buffer (Beta) ใน Valorant ทำงานอย่างไร?
Screenshot by Amlan Roy/ONE Esports

Raw Input Buffer เปิดตัวเป็นฟีเจอร์ที่เปิดทดลองตั้งแต่แพตช์ Valorant 3.07 โดย API นี้ (Application Programming Interface) คล้ายกับ Reflex API ของ Nvidia

แม้ว่า Nvidia Reflex จะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งในเกมที่ทำให้การป้อนข้อมูลสู่เกมนั้นเร็วขึ้น ข้อเสียคือมันใช้การประมวลผลผ่าน GPU อาจส่งผลให้เกมทำงานได้มีประสิทธิภาพน้อยลง

ในทางกลับกัน Raw Input Buffer ใน Valorant จะเน้นไปที่การป้อนข้อมูลด้วยเมาส์เป็นหลัก แทนที่จะเป็นทั้งระบบ แม้ว่า Nvidia Reflex จะทำงานที่คล้ายกัน แต่ฟีเจอร์นี้มีข้อดีที่แยกจากกัน

นี่คือวิธีการทำงานของคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยเมนบอร์ดจะรับ Input ของผู้ใช้และส่งไปยังระบบปฏิบัติการเพื่อแปลงข้อมูล การแลกเปลี่ยนระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์นี้มักจะถูกกรองเพื่อให้เหมาะสมกับระบบปฏิบัติการ

และเพื่อช่วยการทำงานนี้ Riot Games ใช้ Raw Input Buffer ซึ่งรับข้อมูล Input จากเมนบอร์ดโดยตรง เป็นผลให้ลดการพึ่งพา OS

คุณควรใช้ Raw Input Buffer ใน Valorant หรือไม่?

Credit: Riot Games

ดูเผินๆแล้ว อาจดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ดีที่จะใช้ Raw Input Buffer ใน Valorant เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากระบบ แต่ไม่ใช่ คำตอบนั้นซับซ้อนกว่าที่คิดมาก

ในโลกนี้มีเมาส์มากมายและหลายประเภท และอุปกรณ์แต่ละชนิดมีอัตรา Polling Rate แตกต่างกัน (Polling Rate คือจำนวนครั้งที่เมาส์ส่งข้อมูล Input ต่อวินาที)

เมาส์สำหรับเล่นเกมทั่วไปมี Polling Rate ที่ 1,000Hz โดยมีดีเลย์ 1ms เมาส์มาตรฐานมีความถี่ตั้งแต่ 125-500Hz ซึ่งช้ากว่ามาก

ในกรณีที่คุณใช้เมาส์ที่มี Polling Rate ต่ำ การเปิดใช้งาน Raw Input Buffer นั้นไม่สามารถทำได้ในทางเทคนิค ด้วยค่า Polling Rate ที่ต่ำทำให้ระบบการทำงานของ windows นั้นสามารถจัดการข้อมูลที่ได้รับได้อย่างง่ายดาย และการปิดฟีเจอร์นี้จะไม่ไปรบกวนมัน

ในทางกลับกัน สำหรับเมาส์เล่นเกมที่มี Polling Rate สูงถึง 8000 Hz การเปิดใช้งาน Raw Input Buffer ใน Valorant เป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจาก Polling Rate ที่สูง Windows OS จึงต้องกรองข้อมูลจำนวนมากก่อนที่จะส่งเข้าสู่เกม ด้วยการถอดตัวกลางออก เมาส์สำหรับเล่นเกมดังกล่าวจึงสามารถใช้ประโยชน์และให้การตอบสนองแบบเรียลไทม์ได้

อีกประเด็นที่ต้องจำไว้ หากคุณมีสเปคคอมที่ค่อนข้างต่ำ จะเป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงฟีเจอร์นี้ เพราะว่าการใช้ฟีเจอร์นี้อาจจะทำให้เกิดอาการค้างหรือกระตุกได้

Valorant Raw Input Buffer เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ใน Valorant สำหรับเกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับเกมอย่างจริงจัง แม้ว่าจะไม่ทำให้การเล็งของคุณดีขึ้น แต่มันจะทำให้อุปกรณ์ของคุณสามารถตอบสนองต่อเกมได้ไวยิ่งขึ้น

เราขอแนะนำให้ใช้ทั้ง Nvidia Reflex และ Raw Input Buffer ร่วมกัน เนื่องจากจะช่วยปรับปรุงการตอบสนองของอุปกรณ์ต่างๆ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้เห็นได้ชัดขนาดนั้น แต่การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยก็สามารถสร้างความแตกต่างได้มาก

ข้อดีและข้อเสียสั้นๆ ของการใช้ฟีเจอร์นี้มีดังนี้:

ข้อดี:

  • ช่วยให้อุปกรณ์ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยเพิ่มความแม่นยำ
  • ลดความล่าช้าในการป้อนข้อมูล

ข้อเสีย:

  • ใช้ทรัพยากรระบบเพิ่มเติม
  • มีประโยชน์สำหรับเมาส์ที่มี Polling Rate สูงกว่า 1,000Hz เท่านั้น

Raw Input Buffer ใน Valorant เปิดใช้งานอย่างไร?

Credit: Riot Games

หากคุณไม่รู้ว่าจะเปิดใช้งาน Raw Input Buffer ได้ตรงไหน ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำโดยย่อของการเปิดใช้งาน Raw Input Buffer ใน Valorant

  • เข้า Valorant และไปที่ตั้งค่า
  • คลิกที่แท็ป “CONTROLS” หรือการควบคุม
  • เลื่อนลงไปเล็กน้อยจนกว่าคุณจะเห็นคำว่า [BETA] RawInputBuffer เพียงคลิกที่ปุ่ม “เปิด” เพื่อเปิดใช้งาน
  • กด Apply หรือใช้งาน เป็นอันเสร็จสิ้น
https://shope.ee/6AOmcPZuIE

อ่านเพิ่ม: Jinggg เผยเคล็ดลับกลับมาฟอร์มเปรี้ยงแม้พักแข่ง