Valorant Episode 5 Act I มาพร้อมกับการรีเซตแรงค์ครั้งใหญ่ตามฤดูกาลในระดับแรงค์ของคุณ นั่นหมายความว่า คุณจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการไต่กลับไปยังแรงค์เดิม อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่ทำได้ดีในการเล่นอาจจะแรงค์อัพแบบสองขั้นรวดก็เป็นได้เหมือนกัน

ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของโชคหรือแม้แต่ความบังเอิญ แต่จริงๆแล้วมันมีเกณฑ์การเล่นที่เฉพาะเจาะจงอยู่ ยืนยันโดย Jonathan “EvrMoar” Walker นักออกแบบอาวุโสของ Riot Games



ผู้พัฒนา Valorant ยืนยัน แรงค์อัพสองขั้นรวดไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคช่วย

Valorant Ranks
Screenshot by Koh Wanzi/ONE Esports

อันดับ Valorant มีอะไรมากกว่าแค่แรงค์ที่คุณเห็นในเกม โดยจะ Riot ได้ใช้ระบบ MMR ที่มาจากสกิลการยิงและการเล่นต่างๆของคุณด้วย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนด RR ที่คุณได้รับหรือสูญเสียหลังจากการแข่งขันทุกนัด อันที่จริง ความเก่งหรืออันดับแรงค์ของคู่ต่อสู้ที่เจอแทบจะไม่ส่งผลต่อการเพิ่มคะแนน RR ของคุณเลยด้วยซ้ำ

ช่วง MMR ของคุณสามารถเพิ่มหรือลดได้ตลอดเมื่อคุณเล่นมากขึ้นแต่จะผันผวนได้เฉพาะในช่วงที่จำกัดจากอันดับแรงค์ของคุณ โดย EvrMoar ได้กล่าวว่าตอนนี้ การแรงค์อัพแบบรวดเดียวสามารถทำได้เต็มที่ที่สุดก็สามขั้นรวด หมายความว่าคุณจะได้รับการรับประกันว่าจะคุณจะได้ขึ้นแบบสองขั้นรวด ถ้า MMR ของคุณสูงกว่าแรงค์ที่คุณอยู่ 

ในท้ายที่สุด การแรงค์อัพสองขั้นรวดมาจากอันดับแรงค์ของคุณที่อยู่นอกระยะ MMR ของคุณ ตามที่ EvrMoar กล่าว

การเลื่อนยศแบบทวีคูณอาจพบเห็นได้ทั่วไปใน Episode 5 Act I นี้เนื่องจากมีการเปิดตัวแรงค์ใหม่ ‘Ascendant’ ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งทุกแรงค์ที่ต่ำกว่า Ascendant จะมีเป้าหมาย MMR ในการไต่อันดับน้อยลง นั่นหมายความว่าหากก่อนหน้านี้คุณไม่เคยไต่ถึง Diamond มาก่อน คุณอาจจะเปิดแรงค์มาเป็น Diamond ใน Act นี้ก็เป็นได้

โดย Riot Games มีเป้าหมายคือการทำให้แน่ใจว่าอันดับของผู้เล่นจะอยู่ในระดับเดียวกันกับ MMR ของผู้เล่นนั้นๆ แต่ทุกคนต่างก็อยู่บนเส้นทางในการไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ นี่คือเหตุผลที่คุณอาจยังได้รับ RR น้อยกว่าเพื่อนร่วมทีมในล็อบบี้เดียวกัน แม้จะเล่นได้ดีและอยู่อันสูงสุดของสกอร์บอร์ด

อันดับของคุณอาจเป็นเพียงการสะท้อน MMR ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ระบบก็ยังพยายามที่จะปิดช่องว่างระหว่างแรงค์ของเพื่อนร่วมทีมของคุณ และ MMR ของพวกเขาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม Episode 5 Act I ได้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยผู้เล่นจะต้องเล่นโหมด Comprtitive หรือโหมดแข่งขัน 5 แมตช์เพื่อเปิดแรงค์ เนื่องจากการรีเซต Episode ใหม่

อ่านเพิ่ม: VCT Masters Copenhagen 2022: โปรแกรม ผลการแข่ง รับชม