ภาคใหม่ของเกม FPS ยอดนิยมอย่าง Counter-Strike 2 มีโหมดที่แตกต่างกัน 2-3 โหมด รวมถึงโหมด Competitive และโหมด Premier โดยในบทความนี้ เราจะพูดถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง 2 โหมดนี้



อธิบายความแตกต่างระหว่างโหมด Competitive และ Premier ใน CS2

Screenshot by Steven Cropley/ONE Esports

เราจะเริ่มต้นด้วยการอธิบายระบบ Premier ก่อนที่จะอธิบายวิธีการทำงานของโหมด Competitive โดยแนวคิดพื้นฐานก็คือ Premier จะเป็นระบบที่นำคะแนน CS Rating มาคำนวณ ในขณะที่ Competitive จะคำนวณตามระบบอันดับ CSGO ก่อนหน้านี้


CS2 Premier

Screenshot by Steven Cropley/ONE Esports

ในตอนที่คุณเข้า CS2 เป็นครั้งแรก คุณจะไม่มีอันดับหรือ Rating ใดๆ หากต้องการได้รับ CS Rating คุณจะต้องชนะการแข่งขันใน Premier อย่างน้อย 10 เกม

นี่คือจุดเริ่มต้นของระบบการให้คะแนน CS Rating การจับคู่ตำแหน่งเหล่านี้จะจัดอันดับ CS Rating ที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากการเล่นของคุณไม่ว่าคุณจะชนะหรือแพ้ รวมถึงอันดับของคู่ต่อสู้ของคุณ

หากคุณกำลังเล่นกับผู้เล่นที่มีคะแนน Rating 20,000 และคุณชนะแมตช์นั้น คุณจะได้รับคะแนน Rating ที่สูงกว่าการที่คุณแพ้ผู้เล่น Rating 12,000 ในระหว่างการจัดอันดับใน 10 แมตช์แรกของคุณ

เมื่อคุณชนะครบ 10 เกม ระบบจะจัดอันดับคะแนน CS Rating จากนั้น ระบบจะพยายามจัดการแข่งขันที่เหมาะสมกับระดับทักษะของคุณ

ชัยชนะจะทำให้คุณได้รับคะแนนเพิ่มขึ้น ในขณะที่การแพ้จะทำให้คุณเสียคะแนน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการได้รับหรือเสียคะแนนในแต่ละเกม จะขึ้นอยู่กับว่าคุณทำผลงานได้ดีแค่ไหน อย่างไรก็ตาม หากคุณอยู่ในทีมที่เสียเปรียบและจบด้วยผลเสมอ คุณก็อาจจะได้รับคะแนนเช่นกัน

ใน Premier ทีมจะต้องผ่านระบบการเลือกและแบนแผนที่ตามกฎเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญอีกประการหนึ่งของโหมด Premier ใน CS2


CS2 Competitive

Screenshot by Steven Cropley/ONE Esports

โหมด Competitive น่าจะเป็นโหมดที่หลายๆคนคุ้นเคยกับผู้เล่นอยู่แล้ว โดยใน CS2 จะเหมือนกับโหมดกับโหมด Competitive ใน Counter-Strike เวอร์ชันก่อนหน้า

ผู้เล่นจะสามารถเลือกแผนที่ที่ต้องการเล่นได้ ซึ่งแตกต่างกับโหมด Premier ที่จะได้เลือกแผนที่ผ่านระบบเลือกและแบน และจะแข่งขันกันในระบบแรงค์แบบเดียวกับใน CS:GO 

อย่างไรก็ตาม ใน CS2 นี้ โหมด Competitiveก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน โดยการจัดอันดับจะจัดอันดับเป็นเฉพาะแผนที่ หมายความว่าคุณสามารถเล่นแต่ Mirage ไปจนถึงแรงค์ Global Elite ได้ แต่คุณจะไม่มีอันดับเดียวกันนี้ในแผนที่อื่นๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณเก่งแค่ไหนในแผนที่ทั้งหมด

อ่านเพิ่ม: CS2: วิธีการแปลงความไวเมาส์จาก Valorant แบบง่ายๆ