คุณจะสานต่อหนึ่งในผลงานยอดฮิตของแฟรนไชส์ได้อย่างไร? Kazuhisa Wada ผู้จัดการฝ่ายโปรดิวเซอร์ของซีรีส์ Persona และ โปรดิวเซอร์ทั่วไป ของ Persona 3 Reload มีคำตอบง่ายๆ ก็คือ ปรับปรุงหมดทุกอย่าง
ONE Esports มีโอกาสเข้าร่วมในการสัมภาษณ์โต๊ะกลมกับ Kazuhisa Wada โปรดิวเซอร์ทั่วไปของ Persona 3 Reload ผ่านทางล่ามแปลภาษา
Wada พูดคุยเกี่ยวกับอุปสรรคที่ ATLUS พบเจอในการสร้าง JRPG สุดคลาสสิกขึ้นมาใหม่ รวมถึงการอัปเกรดหลายอย่างที่พวกเขาได้ทำในการรีมาสเตอร์ครั้งนี้ รวมถึงการรับและปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆจาก Persona 5 Royal
- รวมของน่าซื้อที่สายเกมมิ่งต้องจัดใน Shopee 2.2
- Like a Dragon Infinite Wealth รีวิว: การผจญภัยในฮาวายพร้อมความสนุกที่ไม่รู้จบ
Persona 3 Reload ใช้เวลาในการฝ่าฟันอุปสรรคถึง 4 ปี
Wada กล่าวว่าการรีเมค Persona 3 เริ่มขึ้นในปี 2019 และกินเวลานานสี่ปี โดยการรีเมคเกมดั้งเดิมซึ่งเป็น “ภาคที่พิเศษอย่างมาก” โปรดิวเซอร์ กล่าวว่าหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ไม่ควรถูกแตะต้อง
“เราใช้เวลานานมากในการสร้างสมดุลที่เหมาะสม และมีการถกเถียงกันภายในมากมายเพื่อก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง” Wada กล่าว “มันยากมากที่จะพยายามปรับปรุงเกมโดยไม่ต้องเปลี่ยนความรู้สึกดั้งเดิม รวมถึงองค์ประกอบดั้งเดิมของเกมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”
“ตามหลักการแล้ว เราอยากจะคิดว่าทุกอย่างได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเกมเก่า” โปรดิวเซอร์ กล่าว โดยเฉพาะการปรับปรุงด้านภาพและการใช้งานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเกมต้นฉบับ ซึ่งน่าชื่นชมเป็นพิเศษ
การเพิ่มเติมครั้งใหญ่อย่างหนึ่งของ Persona 3 Reload จากภาคดั้งเดิม คือการเพิ่มจำนวนเรื่องราวเบื้องหลัง รวมถึงเนื้อหาแฮงเอาท์ใหม่กับสมาชิก S.E.E.S. และบทสนทนาสุดพิเศษใน Tartarus เพื่อ “เพิ่มความน่าดึงดูดโดยรวมของตัวละคร” สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ ผู้เล่นอาจได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกมในอนาคต ซึ่งหมายถึง Persona 4 Arena และ Persona 4 Arena Ultimax ซึ่งมีความเกี่ยวข้องที่ชัดเจนตามลำดับเวลาของเกม Persona
ปรับปรุงระบบต่อสู้โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Persona 5 Royal
เนื้อหาเรื่องราวที่ได้รับการปรับปรุงไม่ได้จบเพียงแค่บทสนทนาเท่านั้น เมื่อพิจารณาถึงส่วนประกอบใหญ่ของเกมที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ รวมถึงการตะลุยฝ่า Tartatus และการต่อสู้กับบอสตัวสำคัญ Wada Niitsuma กล่าวว่าระบบการต่อสู้ที่ปรับปรุงใหม่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเล่าเรื่องอีกด้วย
“เราต้องการใช้ระบบการต่อสู้ในลักษณะที่จะเป็นประโยชน์ต่อเรื่องราวอย่างแน่นอน และเพิ่มเติมด้านต่างๆ ให้ตัวละครเพื่อทำให้พวกเขาน่าสนใจยิ่งขึ้น” ผู้โปรดิวเซอร์ กล่าว
ระบบการต่อสู้ของ Persona 3 Reload ใช้แนวทางหลักจาก Persona 5 Royal เป็นพื้นฐาน โดยมี “การปรับปรุงเพิ่มเติม” ต่อยอดขึ้นมา สิ่งเหล่านี้รวมถึงพลังการต่อสู้เพิ่มเติม เช่น เกจ Theurgy ใหม่ รวมถึงลักษณะบุคลิกภาพและลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมของสมาชิก S.E.E.S. แต่ละคน ที่ช่วยเพิ่มพลังของพวกเขาให้แข็งแกร่งขึ้น
การปรับปรุงด้านคุณภาพชีวิต ทำให้ P3R น่าเล่นสุดๆ
ด้วยระยะห่าง 18 ปี ระหว่าง P3R และภาคดั้งเดิม ความรู้สึกในการเล่นเกมยุคใหม่ได้ก้าวหน้าไปอย่างแน่นอนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา Wada กล่าวว่าเป้าหมายสำหรับการเปิดตัวใหม่คือการมี “การใช้งานและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจาก P5R”
ในบรรดาคุณสมบัติคุณภาพชีวิตใหม่ซึ่งรวมถึง Dash, Assist และ Shift ยังมีระบบ RewindRollback ซึ่งเป็นครั้งแรกในซีรีส์ Persona ที่มีระบบนี้ มันเป็นระบบที่แยกต่างหากจากไฟล์เซฟของคุณ และโดยพื้นฐานแล้วทำหน้าที่เป็นการบันทึกอัตโนมัติแบบต่อเนื่องที่ช่วยให้คุณย้อนเวลากลับไปช่วงก่อนหน้าได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับเกมที่ยึดตามปฏิทินอย่าง P3R ซึ่งใช้ชีวิตและตายไปภายใต้ช่วงเวลาที่จำกัดของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ การย้อนกลับจากสถานะเกมปัจจุบันของคุณแทนการกลับไปใช้เซฟแบบเก่าอาจเป็นตัวช่วยชีวิตได้
การประหยัดเวลาอื่นๆ ได้แก่ ความสามารถในการเทเลพอร์ตไปยังชั้นล่าสุดที่คุณได้สำรวจใน Tartarus ทันที ทำให้มีโอกาสมากขึ้นในการมุ่งหน้ากลับไปที่ล็อบบี้และประหยัดเงิน เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถท่องไปในแผนที่ได้อย่างอิสระ ข้อความจากเพื่อนๆที่ขอใช้เวลาร่วมกัน ทำให้คุณ Fast Travel ไปถึงพวกเขาอย่างรวดเร็ว แทนที่จะต้องเปิดแผนที่นำทาง
งบประมาณการสร้าง P3R สุดช็อค แต่พวกเขาก็ทำให้มันออกวางขายพร้อมกันทั่วโลกได้สำเร็จ
Wada กล่าวว่างบประมาณการพัฒนาสำหรับ Persona 3 Reload “สูงกว่าราคาเดิมของ Persona 3 มาก” และนั่นทำให้ทีมงาน “ต้องตกใจอย่างแน่นอน”
“หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราต้องเผชิญคือความจริงที่ว่าเราตั้งเป้าที่จะจำหน่ายหลายเวอร์ชันทั่วโลก รวมถึงประมาณ 13 ภาษาในทุกแพลตฟอร์ม” Wada กล่าว
“เราใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่าแฟน ๆ ทั่วโลกรวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะสามารถเข้าถึงเกมได้พร้อมกัน เพื่อให้พวกเขาทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับเกมได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ในปัจจุบัน Person 3 Reload ยังไม่มีแผนที่จะปล่อยเวอร์ชันอัปเกรด เหมือนกับ Persona 5 ไปเป็น Persona 5 Royal ดังนั้นเราหวังว่าแฟน ๆ และผู้เล่นทั่วโลกจะเพลิดเพลินไปกับเกมนี้ได้เมื่อเปิดตัว!”
Persona 3 Reload วางจำหน่ายแล้ววันนี้ บน PlayStation 4, PlayStation 5, Windows, Xbox One และ Xbox Series X|S — รวมถึง Xbox Game Pass อีกด้วย
นี่คือวิวัฒนาการครั้งต่อไปของ Persona RPG ซึ่งต่อยอดมาจากเกม Persona 3 ภาคเดิมในปี 2006 รวมถึงสิ่งที่การพัฒนาได้เรียนรู้และสะสมจากการสร้าง Persona 5 Royal ก่อนหน้านี้ ซึ่ง Persona 5 และ Royal Edition เป็นเกมขายดีที่สุดของซีรีส์
“ซีรีส์ Persona และโดยเฉพาะ Persona 3 ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของซีรีส์นี้ ดังนั้นมันจึงเป็นภาคที่พิเศษสำหรับเรา” Wada Niitsuma กล่าว
“การรีเมคได้รับข้อมูลจากผู้คนที่เคยเป็นผู้เล่นและแฟนของ Persona 5 Royal และพวกเขาก็ตั้งเป้าที่จะทำให้แน่ใจว่าการรีเมคนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า P5R โดยเฉพาะในหลายๆ ด้าน เช่น การควบคุม ดังนั้นเราหวังว่าคุณจะตั้งตารอเกมนี้”
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Persona 3 Reload ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ATLUS หรือ SEGA
สินค้าเกมมือถือที่คุณอาจสนใจ
อ่านเพิ่ม: Persona 3 Reload รีวิว: ภาครีมาสเตอร์ที่โดดเด่นกว่าเดิม
