ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือ AI ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงบ่อยครั้งในฐานะสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ในการใช้ชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะการนำ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพด้านธุรกิจ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ AI เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราไปแล้ว และแน่นอนว่าวงการอีสปอร์ตที่ข้องเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีก็ต้องมี AI เข้ามามีส่วนร่วมอย่างมาก ในโอกาสนี้ ONE Esports จะขอพาคุณไปทำความรู้จักกับผู้นำด้าน AI วงการอีสปอร์ตของไทย ที่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่วิสัยทัศน์จนถึงรูปแบบการทำงานที่เรียกได้ว่า เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการเกม และอีสปอร์ตไม่น้อยทีเดียว
และบริษัทที่เรากำลังพูดถึงก็คือ บริษัท Sportlyze (สปอร์ตไลซ์) ประเทศไทย จำกัด…
เริ่มต้นจากฟุตบอล
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12718-1024x490.jpg)
Sportlyze ถือกำเนิดขึ้นในปี 2017 โดยมี คุณเอ็กซ์ วรวุฒิ พิรักษา นักธุรกิจหนุ่มวัย 36 ปี เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีด้านกีฬาและอีสปอร์ต เป็น Deep Tech Startup ด้านกีฬาและอีสปอร์ต รายแรกของเมืองไทย เน้นการใช้เทคโนโลยี Artificial intelligence (AI) , and Machine Learning Technology ,Computer Vision เพื่อมาพัฒนาวงการกีฬาและอีสปอร์ต
การเติบโตของ Sportlyze นับว่าน่าสนใจ เมื่อเริ่มก่อตั้งในปี 2017 ซึ่งช่วงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นไอเดียสร้างบริษัทขึ้นมา จากนั้นในปี 2018 ถูกเลือกเป็นหนึ่งใน Startup ที่ได้รับเงินลงทุนสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2018 มูลค่าการลงทุน 1 ล้านบาท กระทั่งปี 2019 กลายเป็นปีที่ Sportlyze กระโดดเข้าสู่ธุรกิจอย่างจริงจัง
“จุดเริ่มต้นของของการก่อตั้งบริษัท Sportlyze เดิมเราทำบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ และ แอปพลิเคชั่น อยู่แล้ว” วรวุฒิ กล่าวกับ ONE Esports ถึงจุดเริ่มต้นการเดินทางของ Sportlyze
“โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบดูฟุตบอล ติดตามฟุตบอลไทยมานานตั้งแต่ยุคที่เรายังไม่มีการถ่ายทอดสดหรือการแข่งขันที่เป็นรูปแบบลีก เวลามีแข่งขันทีมชาติก็จะมีเว็บบอร์ดหนึ่งที่ถ้าเป็นแฟนฟุตบอลไทยจะรู้จักกันดี”
“ผมเป็นคนที่เวลาบอลเตะจบจะเข้าไปอ่านคอมเมนต์ดูว่า แฟนบอลคิดยังไง ก็เห็นอยู่เรื่อยๆ ว่า ปัญหาฟุตบอลไทยอย่างหนึ่งที่ขาดคือขาดวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาพัฒนาทีมชาติของการเก็บข้อมูลสถิติก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ฟุตบอลไทยยังขาด เราเลยอยากจะทำเทคโนโลยีด้านนี้ขึ้นมา ก็เลยเกิดเป็น Sportlyze โฟกัสไปที่เรื่องพัฒนาเทคโนโลยี การใช้ AI เข้ามาช่วยจัดสถิติว่า การเล่นของนักฟุตบอลแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง”
จากความชอบฟุตบอลทำให้เขาเห็นโอกาสในธุรกิจที่จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเข้ามาช่วยพัฒนาสโมสรต่างๆ โดยช่วงที่ฟุตบอลไทยลีก เริ่มวางระบบอาชีพเป็นช่วงเดียวกับที่ Sportlyze เข้าไปพูดคุยกับบางสโมสรที่ทำให้เห็นโอกาสชัดเจนขึ้น แต่ก็มีความยากอยู่เช่นกัน นั่นคือเรื่องของลีกประเทศไทยที่คุณภาพของสนามยังไม่ได้มาตรฐาน เช่นความสูงของอัฒจันทร์ไม่เพียงพอที่จะติดตั้งอุปกรณ์เพื่อให้เห็นผู้เล่นทั้งสนาม อีกทั้งเรื่องงบประมาณบางสโมสรยังไม่พร้อมที่จะลงทุนในด้านเทคโนโลยี
รูปแบบการทำงานของ Sportlyze จะใช้ซอฟต์แวร์เป็นหลัก โดยทีมงานจะติดตั้งกล้องไว้ที่สนามเพื่อเก็บข้อมูล ซึ่งคุณเอ็กซ์ วรวุฒิ เล่าถึงความยากในขั้นตอนการทำงานว่า
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12724-1024x766.jpg)
“ความยากที่สุดในเรื่องของความแม่นยำเป็นตัวสภาพสนาม เป็นปัจจัยหนึ่งของการทำตัวเทคโนโลยีนี้ เพราะบางสนามเราต้องการมุมกล้องค่อนข้างสูงเพื่อให้เห็นผู้เล่นทั้งสนาม แต่เนื่องด้วยอัฒจันทร์ในลีกบ้านเราส่วนใหญ่ยังไม่สามารถจะวางแบบนั้นได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เราเจอเยอะ มีไม่กี่สนามที่เราสามารถใช้งานได้จริงๆ”
“การทำงานกับสโมสรในช่วงแรกๆ บางสโมสรก็ให้คำแนะนำเราว่า มันเป็นสิ่งที่เขาอยากได้ แต่ข้อมูลที่เขาอยากรู้มันมีอะไรบ้างเช่น ข้อมูลรายบุคคล เรื่องสปีด คือสิ่งที่เขาอยากรู้ ข้อมูลการวิ่งตลอดทั้งเกมเป็นอย่างไรเพื่อทำเป็น KPI วัดความฟิตของนักเตะในการทำงานตามแทคติกโค้ช ซึ่งเราก็เอาคำแนะนำกลับมาพัฒนา”
ช่วงแรก Sportlyze มีโอกาสเข้าไปร่วมงานกับ นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นสโมสรฟุตบอลกลุ่มแรกร่วมงานกันรวมถึง ขอนแก่น เอฟซี ซึ่งต่างให้คำแนะนำเพื่อนำไปพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งธุรกิจต้องสะดุด เมื่อโควิด-19 ระบาด ทำให้ฟุตบอลไม่สามารถแข่งขันได้ นั่นหมายความว่า การวิเคราะห์หรือรูปแบบธุรกิจของ Sportlyze ถูกลดงานไปด้วย
แต่ในวิกฤตินั้นคุณเอกซ์ วรวุฒิ เห็นโอกาสครั้งใหม่ นั่นคืออีสปอร์ต กีฬาที่ยังสามารถแข่งขันได้ตามปกติ แม้จะอยู่ในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้เขาเริ่มสนเข้าสู่ตลาดอีสปอร์ตจริงจัง
จากสนามฟุตบอลสู่อีสปอร์ต
![จากสนามฟุตบอลสู่อีสปอร์ต](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12722-1024x556.jpg)
“เราเห็นโอกาสในการใช้เทคโนโลยีกับกีฬาอื่นๆ อย่างอีสปอร์ต” วรวุฒิ พิรักษา ผู้ก่อตั้ง Sportlyze กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงเข้ามาจับธุรกิจในอีสปอร์ต
“อีสปอร์ตถือเป็นกีฬาอีกชนิดที่ได้รับการยอมรับจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และทั่วโลกว่าเป็นกีฬาที่มีมูลค่าการตลาดค่อนข้างสูง เราเลยเอาเทคโนโลยีที่เรามีมาประยุกต์ใช้กับอีสปอร์ตทั้งฝั่งเรื่องพัฒนาผู้เล่น และพัฒนาคอนเทนต์ในการวิเคราะห์เกมอย่างเช่น FIFA ,Efootball”
“เรามีโอกาสทำงานร่วมกับบริษัทในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย” วรวุฒิ กล่าวต่อ “ทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทสื่อ และธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา เราก็คุยกันว่า น่าจะทำโปรเจกต์เกี่ยวกับอีสปอร์ต ซึ่งเขาเห็นเราทำเทคโนโลยีฟุตบอลอยู่แล้ว และมีโปรดักต์ใหม่ที่เกี่ยวกับตัวเกม FIFA,Efootball ก็เลยชวนเราไปร่วมงานในทัวร์นาเมนต์ระหว่างทีมตัวแทนจากมาเลเซียเจออินโดนีเซียที่จัดแข่งกัน”
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12720-1024x567.jpg)
แม้จะต่างกีฬา แต่เรื่องของนำเสนอไม่ต่างกัน เพราะอยู่ในรูปแบบการวิเคราะห์เกมที่ Sportlyze ใช้กับฟุตบอลอยู่แล้ว ซึ่งกราฟิกวิเคราะห์ก็ใช้วิธีการ และรูปแบบเหมือนฟุตบอลจริง ความเข้าใจต่างๆ ก็เป็นพื้นฐานของฟุตบอลที่เหมือนกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอาจมีความต่างเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่ Sportlyze ต้องวิเคราะห์
“เรื่องสถิติจากเดิมที่เราจะวิเคราะห์ผู้เล่นในสนาม แต่ในอีสปอร์ตเราจะวิเคราะห์การเล่นของคนที่บังคับเกมหรือนักกีฬาอีสปอร์ตว่า เขามีการวางแผนบุกยังไง ชอบบุกซ้ายหรือขวา ยิงไกล หรือยิงใกล้ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการเล่นที่เขาจะได้เห็นรูปแบบหรือสไตล์การเล่นว่า จากทีมไหนเป็นยังไง”
Qbit AI รูปแบบธุรกิจที่ต้องการเปิดโอกาสสำหรับทุกคน
จุดเด่นของ Sportlyze ไม่ได้อยู่ที่การวิเคราะห์เท่านั้น เมื่อต่อยอดไปถึงการสร้างรายได้จากโฆษณาให้กับผู้ใช้งาน ภายใต้ความมุ่งมั่นที่อยากเปิดกว้างสำหรับโอกาสของทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นสตรีมเมอร์ผู้ติดตามน้อยหรือคนเล่นเกมทั่วไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ วรวุฒิ พิรักษา ก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาชื่อว่า Qbit AI
“เริ่มแรกตัว Sportlyze ของเราสามารถจะใส่โฆษณาเข้าไปในไฮไลท์ในเกม FIFA หรือ eFootball ได้ หลังจากนั้นเรามองว่า มันมีอีกหลายเกมที่เราสามารถใช้กับเทคโนโลยีของเราได้ เราเลยพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาชื่อ Qbit AI” วรวุฒิ กล่าว
“Qbit AI เหมาะสำหรับกลุ่มวิดีโอคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไม่ว่าจะคนเล่นเกมหรือสตรีมเมอร์ก็สามารถหารายได้จากโฆษณาได้ ตรงนี้ทำให้คนที่เล่นเกมอื่นๆ เช่น CS:GO, Call of Duty สามารถหารายได้ เพียงแค่เปิดโหมดโฆษณาที่เวลาเล่นเกมก็แค่เปิดโหมด Qbit AI แล้วก็สตรีมออกไปผ่าน Facebook หรือ Youtube”
“สมมติเราเล่น CS:GO แล้วเดินผ่านกำแพง ตรงกำแพงที่เราวางโฆษณาเอาไว้ก็จะผุดขึ้นมา เมื่อโฆษณาขึ้นมาแล้วมีคนดู ตัวแพลตฟอร์มก็จะคำนวณรายได้ และส่วนแบ่งให้”
วรวุฒิ กล่าวต่อถึงการทำงานโฆษณา Qbit AI ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่คอนเซปต์ของเขาที่ต้องการเปิดโอกาสให้กับทุกคน ดังนั้นเงื่อนไขที่ผู้ใช้บริการจะทำรายได้จากโฆษณาจึงไม่มีข้อจำกัดมากนัก
“มันจะมีสองโหมด โหมดแรกคลาสสิกโหมด เราแค่ดาวน์โหลดแบนเนอร์โฆษณาในเว็บไซต์ Qbit AI แล้วนำไปติดในคอนเทนต์ของตัวเองเป็นคอนเทนต์อะไรก็ได้แล้วก็อัปโหลดบนแพลตฟอร์มต่างๆ เสร็จแล้วเอาลิงก์ที่อัปโหลดมาลงทะเบียนกับ เว็บไซต์ Qbit AI หลังจากมียอดวิวเกิน 1 ครั้ง เราก็จะสามารถสร้างรายได้ตรงนี้ได้แล้ว”
“ส่วนโหมด AI เหมาะสำหรับกลุ่มทำคอนเทนต์วิดีโอเกมที่จะช่วยให้เราสร้างโฆษณาเข้าไปแทนจุดต่างๆ ในวิดีโอเกมได้ เวลาเดินผ่านกำแพงหรือป้ายต่างๆ ก็จะมีโฆษณาขึ้นมา”
“ตัวโมเดล Qbit AI เราเปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่จำกัดว่าสตรีมเมอร์จะต้องมีผู้ติดตามหลักพันคนขึ้นไปถึงจะสร้างรายได้ตรงนี้ได้ ซึ่งมันเป็นข้อจำกัดของหลายคนในการทำคอนเทนต์กว่าที่คุณจะเริ่มสร้างรายได้ต้องมีเงื่อนไขขั้นต่ำมากมายลงคลิปต่อเนื่องหรือคนติดตามเท่าไหร่มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้คนอาจท้อเลิกทำไปก่อน”
“แต่เงื่อนไขของเรา เราโฟกัสแค่คุณต้องสร้างยอดวิวให้ได้ KPI ตามกำหนดของเรา แต่ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าต้องมีคนติดตามเยอะ เงื่อนไขของเราค่อนข้างต่ำมาก” วรวุฒิ กล่าว
พาร์ทเนอร์บริษัทระดับโลก
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12717-1024x461.jpg)
ปัจจุบันการเติบโตของ Sportlyze ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง เมื่อจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรระดับโลกอย่าง Shadow บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการวิเคราะห์อีสปอร์ตชื่อดังของประเทศเยอรมัน ซึ่งก่อตั้งในปี 2016 และได้รับความน่าเชื่อถืออีกทั้งยังทำงานร่วมกับทีมอีสปอร์ตระดับโลกหลายทีม โดยความร่วมมือกันครั้งนี้ทำให้ Sportlyze ยกระดับอีกขั้น เมื่อพวกเขาจะทำหน้าที่ดูแลเทคโนโลยีทั้งหมดของ Shadow
“จุดเด่นของ Sportlyze เราเริ่มต้นจากการ Analysis Sports ปัจจุบันมีเรื่องวิเคราะห์อีสปอร์ตเข้ามา เราน่าจะเป็นบริษัทแรกๆ ที่ทำด้านนี้อย่างจริงจัง”
“ปัจจุบันเราก็มีพาร์ทเนอร์ที่ทำเรื่องอีสปอร์ตระดับโลกอย่าง Shadow เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กัน เขาทำงานกับลีก ESL เป็นลีกที่มีทีมชั้นนำหลายทีม โฟกัสเรื่องเก็บข้อมูล สถิติของเกม CS:GO, Dota 2 และ LoL รูปแบบความร่วมมือเราพูดคุยกันว่า Sportlyze จะเข้าไปดูเทคโนโลยีทั้งหมดในตัว Shadow”
“เดิมเรามี FIFA,Efootball และฟุตบอลที่เป็นกีฬา แต่ปัจจุบันหลังเป็นพาร์ทเนอร์กับ Shadow เราก็มีเกม CS:GO, Dota 2 และ LoL เข้ามา ทั้ง 3 เกม เป็นเกมที่ให้บริการกับทีมชั้นนำในลีก ESL (ลีกอีสปอร์ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก) อยู่แล้ว”
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12721-1024x523.jpg)
คุณเอ็กซ์ วรวุฒิ ได้ขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่พูดกันติดปากว่า นี่คือสิ่งที่บริษัทของเขานำมาใช้ตั้งแต่ต้นสำหรับธุรกิจนี้ เพราะเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยรวบรวมข้อมูลเพื่อประโยชน์ของคนทำงานอีสปอร์ต ดังนั้นทุกอย่างจึงเป็นแบบแผนที่เขาวางไว้แล้ว โดยมี AI เป็นเทคโนโลยีหลัก
“เราใช้คำว่า AI มาหลายปี ก่อนที่คนจะนิยม และพูดกันติดปาก เราใช้มาตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งมันเป็น Vision ของ Sportlyze ที่เราอยากเอาเทคโนโลยีด้าน AI มาพัฒนาวงการกีฬา และอีสปอร์ตในระดับโลก เป็นสิ่งที่เราวางแผน และตั้งใจไว้”
“เรามองว่า AI ถ้าในด้านกีฬาเป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยเรื่องรวบรวมข้อมูลช่วยตัดสินใจสำหรับโค้ชหรือทีมที่ทำให้โค้ชมีข้อมูลรอบด้าน มีคนหาข้อมูลให้”
นอกจากจะพัฒนาธุรกิจของตัวเอง คุณเอ็กซ์ วรวุฒิ ยังได้จับมือเซ็น MOU กับ มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อเข้ามาสนับสนุนด้านการเรียนการสอนของนักศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์เกมและอีสปอร์ต วิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยรังสิต
โดยจะทำการสอนระดับปริญญาตรี ในรายวิชา professional gamer and esports player หรือนักเล่นเกมส์มืออาชีพและนักกีฬาอีสปอร์ต เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตและนักเล่นเกมส์มืออาชีพเทคโนโลยีด้านอีสปอร์ต โดยจะถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ตรงของ Sportlyze ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงแพลตฟอร์มการสร้างรายได้จากอีสปอร์ต และการวิเคราะห์อีสปอร์ต
นอกเหนือจากนี้ Sportlyze มีโปรเจกต์พิเศษที่จะทำร่วมกับสถานศึกษาเพื่อพัฒนาหลักสูตรอีสปอร์ต โดยวางแผนเริ่มต้นในปีการศึกษาหน้า ซึ่งเนื้อหาที่จะถ่ายทอดให้กับนักเรียน นักศึกษาคือความรู้ตั้งแต่ต้นว่า อีสปอร์ตคืออะไรไปจนถึงการสร้างรายได้จากเกมรวมถึงแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญจะเจาะลึกการวิเคราะห์ของตัว Sportlyze ไปพร้อมกับความรู้จากพาร์ทเนอร์ใหม่อย่าง Shadow ด้วย
Sportlyze กับเป้าหมายสู่ระดับโลก
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/10/12719.jpg)
หากไล่เรียงนับจากจุดเริ่มต้นของไอเดียสร้างโมเดลเพื่อก่อตั้ง Sportlyze เมื่อปี 2017 ถึงวันนี้บริษัทที่ คุณเอ็กซ์ วรวุฒิ ลงทุนลงแรงได้ย่างเข้าสู่ปีที่ 6 เต็มตัว แต่ Sportlyze ยังไม่หยุดพัฒนา เพราะโอกาสการทำงานในระดับโลกของอีสปอร์ตคือสิ่งที่เขาตั้งเป้าหมายไว้แล้ว
“สำหรับ Sportlyze ในปีนี้ และปีหน้าเรามองไว้สองแบบ เราจะมี Shadow เข้ามาร่วมด้วยทำให้นอกจากเราจะมองตลาดในเมืองไทยแล้ว เราจะโฟกัสการให้บริการสำหรับกลุ่มทีมอีสปอร์ตทั่วโลกด้วยรวมถึงกลุ่มนักเล่นเกมมือสมัครเล่นที่เราพยายามจะมีโปรดักต์ใหม่ๆ ขึ้นมา”
“เดิมทั้ง Sportlyze และ Shadow จะโฟกัสสำหรับทีมอีสปอร์ตอาชีพเป็นหลักอยู่แล้ว ปีหน้าเราก็อยากมีโปรดักต์สำหรับกลุ่มคนเล่นเกมทั่วไปหรือคนที่อยากก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาอาชีพก็นำตรงนี้ไปใช้งาน”
วรวุฒิ ทิ้งท้ายถึงการเติบโตของ Sportlyze ว่า ที่ผ่านมายังมีติดขัดเพราะโรคระบาดโควิด-19 แต่ทิศทางจากนี้พวกเขาจะนำพาเทคโนโลยีของตัวเองไปเปิดตลาดในระดับโลกได้อย่างแน่นอน
“มันเป็นสิ่งที่เรามองไว้ และอาจจะยังไม่ได้ตามเป้าจากสถานการณ์หลายอย่าง อาจเพราะเศรษฐกิจหรือโรคระบาดที่ทำตามแผนงานไม่ได้ แต่ด้วยทิศทาง และพาร์ทเนอร์ที่เราดึงเข้ามามันจะทำให้เราสามารถเดินไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้”
“เพราะเรามองว่า ด้วยเทคโนโลยีของเรามีโอกาสในตัวตลาดโลก” คุณเอ็กซ์ วรวุฒิ ปิดท้าย