ข้อมูลสถิติ Valorant มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้พัฒนา Valorant ทราบถึงจุดยืนและปัญหาของเอเจนท์ที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่เหมาะสม แต่ในขณะเดียวกัน Riot Games สำรวจความสมดุลของเอเจนท์แต่ละคนผ่านความเข้าใจของผู้เล่นอีกด้วย อย่างเช่นอัตราการชนะและอัตราการเลือก
ในบล็อกสถานะของเอเจนท์ ประจำเดือนกันยายน 2022 นักพัฒนาของ Riot ได้เผยถึงสิ่งที่พวกเขาใช้เพื่อตัดสินใจว่าเอเจนต์คนไหนต้องการการปรับปรุง หรือต้องถูกบัฟหรือเนิร์ฟ
- รวมเบาะแสที่ซ่อนอยู่ของเอเจนท์ Valorant คนที่ 21
- หนึ่งในเอเจนท์ Valorant นอกเมต้า มีสถิติการโซโลแรงค์สุดโหด
Riot Games เผยวิธีวิเคราะห์สมดุลเอเจนท์ Valorant

ในปีที่ผ่านมา ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมต้าครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัว Chamber and Fade ซึ่งทั้งสองเอเจนท์ได้กลายมาเป็นเมต้าอย่างรวดเร็ว
โดย Fade ได้เข้าแทนที่ Sova ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วน Chamber ก็กลายเป็นเอเจนท์เบอร์ต้นๆในการแข่งขัน โดยเขามีอัตราเลือกใน Valorant Champions 2022 สูงถึง 68% สูงที่สุดในปัจจุบัน ทั้งๆที่เพิ่งถูกเนิร์ฟมาถึงสองครั้งด้วยกัน อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่เอเจนต์ทั้งสองนี้ถูกเนิร์ฟเพิ่มเติมในอนาคต
ในขณะที่ Valorant จะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Riot Games จะต้องคอยตรวจสอบผลกระทบของเอเจนท์ที่มีต่อเกม โดยดูจากข้อมูลต่างๆเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ดังนี้
อัตราการชนะและอัตราการเลือกในการโซโลแรงค์

สิ่งแรกที่เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญคืออัตราการชนะของเอเจนท์ในระดับ MMR ต่างๆในแผนที่ที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะวิเคราะห์สถิติความเก่งของเอเจนท์แต่ละคนได้
อัตราการชนะของเอเจนท์แต่ละคน ต้องวัดจากเกมที่ทั้งสองทีมไม่มีเอเจนท์ดังกล่าว เพราะหากมีเอเจนท์เดียวกันในทั้งสองทีม อัตราชนะก็จะกลายเป็น 50% ซึ่งก็จะไม่มีความหมายอะไร
ซึ่ง Riot ก็ได้วัดสถิติงอัตราการเลือกเอเจนท์ด้วยวิธีการเดียวกัน วิธีการนี้จะช่วยให้เข้าใจถึงความเหมือนและความแตกต่าง เมื่อพูดถึงเอเจนท์นยอดนิยมและผู้เล่นคนไหนเป็นคนเลือกเล่น
ความเข้าใจของผู้เล่น
อย่างไรก็ตาม Riot ยังใส่ใจเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้เล่นเช่นกัน โดยได้ตรวจสอบผ่านช่องทางสื่อโซเชียล รวมถึงแบบสำรวจที่ส่งไปให้ผู้เล่นทั่วโลก เพื่อพยายามทำความเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเกมหรือเอเจนท์บางคน
การเล่นในระดับการแข่งขันอาชีพ

ผู้เล่นมืออาชีพคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของ Riot เช่นกัน โดยนักพัฒนาจะพิจารณาอย่างใกล้ชิดที่อัตราการเลือกและแนวโน้มในการเล่นในระดับอาชีพเพื่อเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นหรือทีมระดับอาชีพมองว่าเอเจนท์ สกิลต่างๆ หรือ Comp เอเจนท์นั้นดูคุ้มค่ามากกที่สุด
ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ยอมรับการครองเมตาของ Chamber ใน Valorant Champions 2022 แสดงให้เห็นว่าเอเจนท์ยังต้องถูกปรับปรุงเพิ่มเติม
หลักการออกแบบเอเจนท์
สุดท้ายนี้ เอเจนท์แต่ละคนจะต้องสอดคล้องกับหลักการออกแบบที่สำคัญซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาทั้งหมดในเกม ซึ่งเมื่อมีการออกแบบเอเจนท์รายใหม่ Riot จะพิจารณาสิ่งที่ขาดหายไปจาก Valorant เพื่อจะสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนคนอื่นๆในเกม
ตัวอย่างเช่น เอกลักษณ์ของ Chamber คือ ”อาวุธคู่ใจที่เป็นเอกลักษณ์และความคล่องตัวในการต่อสู้เพื่อการป้องกัน” ซึ่งเป็นสาเหตุ Riot ตัดสินใจเนิร์ฟเพียงแค่ Trademark ของเขาในครั้งแรก เพื่อที่จะให้เอเจนท์ Sentinels คนอื่นๆอย่าว Killjoy หรือ Cypher โดดเด่นขึ้นมา โดยที่เขาไม่เสียเอกลักษณ์ไป
นี่คือสิ่งที่ Riot เรียกว่า “เอกลักษณ์ของเอเจนท์” หมายความว่าเอเจนท์แต่ละคนมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่ชัดเจน โดยไม่ต้องไปเทียบกับคนอื่นๆ ซึ่งหากตัวแทนไม่ตรงตามเกณฑ์การออกแบบเหล่านี้ ก็อาจจะต้องเป็นเป้าหมายในการปรับปรุง แม้ว่าจะไม่มีปัญหาด้านอื่นก็ตาม
ความเข้าใจของผู้เล่นและข้อมูลสถิติไม่ตรงกันเสมอไป

การปรับความสมดุลเอเจนท์จะมาจากเมต้าและตัวเลือกของผู้เล่นซึ่งจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค สกิลการเล่น และอื่นๆ โดยเมต้าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆแพตช์สู่แพตช์ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่ผู้เล่นจะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่
อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจของผู้เล่นและข้อมูลสถิติไม่ตรงกันเสมอไป ตัวอย่างเช่นเอเจนท์บางตัวอาจจะเก่ง แต่เมื่อผู้เล่นไม่เชื่อว่าเอเจนท์ดังกล่าวเก่ง พวกเขาก็จะไม่เลือกเล่น สิ่งนี้จะทำให้เอเจนท์ดังกล่าวมีอัตราการเลือกต่ำ แต่ก็จะบัฟเพิ่มได้น้อย ซึ่ง Brimstone เป็นหนึ่งในตัวอย่างดังกล่าว อ้างอิงจาก Riot Games
“เพื่อจุดประสงค์นี้ เราตั้งเป้าที่จะทำให้เอเจนท์มีความสมดุล มากขึ้นด้วยการอัปเดต แต่เรายังตั้งเป้าที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เล่นปรับความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลของเกมและพัฒนาเมตาด้วยตัวเอง” Alexander Mistakidis นักออกแบบเกมของ Valorant
อ่านเพิ่ม: Valorant Champions 2022 : โปรแกรม ผล ทีมเข้าแข่ง ช่องทางรับชม