Valorant ได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆที่น่าสนใจอยู่ตลอด

ไม่ว่าจะเป็นเมตาของ Chamber ที่ครอบงำปี 2022 และการเนิร์ฟเขาจนทำให้แทบจะไม่ได้เห็นเขาในการแข่งขันในปี 2023 รวมถึงการเนิร์ฟอีกมากมายต่อเอเจนท์ตัวอื่นๆ แต่ละแพตช์ดูเหมือนจะนำองค์ประกอบใหม่ของการเล่นเกมมาด้วย

แต่การนำเสนอปืนสไนเปอร์กระบอกใหม่อย่าง Outlaw ซึ่งเป็นอาวุธชนิดใหม่ชิ้นแรกตั้งแต่เกมเปิดตัว (ไม่รวมอัลติเมทของ Chamber) ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงกันมากมาย และแน่นอน Outlaw ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้การเล่น Valorant เปลี่ยนไป

กลยุทธ์หลักที่บุกเบิกในปีที่แล้วคือการซื้อเกราะเล็กหรือ Light Shields ซึ่งใช้ครั้งแรกโดย NRG และนำไปใช้อย่างรวดเร็วโดยทีมมืออาชีพส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการซื้อให้รอบต่อไปมีเงินเหลือมากพอสำหรับการซื้อปืนและเกราะ



Outlaw: ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปืนสไนเปอร์ใหม่

Outlaw: ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปืนสไนเปอร์ใหม่

เมื่อมีการเปิดตัว Outlaw การซื้อเกราะครึ่งตัวจึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากปืน Outlaw ที่มีราคาอยู่ที่ 2,400 Credits นี้มีราคาใกล้เคียงกับปืนไรเฟิล Bulldog หรือ Guardian แต่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการจัดการศัตรู

โดย Outlaw สามารถยิงได้ทีละ 2 นัด และมีดาเมจอยู่ 140 ต่อนัดเมื่อยิงโดนตัว นอกจากนี้ แม้ดาเมจจากการยิงทะลุกำแพงจะเหลือเพียง 125 แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการสังหารศัตรูที่ซื้อเกราะเล็ก

ปืน Outlaw จะเปลี่ยนวิธีการจัดการเงินใน Valorant อย่างไร?

ผลกระทบของการโจมตีด้วยกระสุนจำนวน 140 นัดนั้นชัดเจน โดยผู้เล่นจะไม่สามารถซื้อเกราะเล็กพร้อมกับปืนไรเฟิลหลังจากรอบชนะได้อีกต่อไปเมื่อเจอกับปืน Outlaw เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่ทีมที่แพ้จะซื้อปืน Outlaw มาสู้ ความเสี่ยงต่อความเสียหายจากการยิง 140 ที่ตัวจึงค่อนข้างสูง

และแม้แต่คู่ต่อสู้ที่มีเกราะใหญ่หรือ Heavy Shields Outlaw ก็ยังคงอันตรายอยู่ดี แม้ว่าคุณจะรอดมาได้ด้วยเลือด 140 HP แต่นั่นก็หมายความว่าคุณสามารถตายได้ง่ายๆด้วย Turret หรือ Nanoswarm ของ Killjoy หรือกระสุนที่ถูกยิงมาแบบสุ่มๆ

Timofey “Chronicle” Khromov จาก Fnatic ผู้เล่นเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ของ Valorant ที่คว้าแชมป์งาน LAN สามสมัย ยกให้ Outlaw เป็นปืนที่โกงมากๆ 

ปืน Outlaw ทำให้รอบ anti-eco นั้นแทบการันตีชัยชนะได้เลย โดยผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่แพ้ในรอบปืนพกแทบจะหมดโอกาสที่จะ Force buy เมื่อคิดถึงการต้องเจอกับ Outlaw

ก่อนหน้านี้ Marshal เป็นตัวเลือกแรกๆสำหรับปืนสไนเปอร์ในรอบที่สองหลังจากชนะปืนพก แต่คู่ต่อสู้ก็สามารถเลือกที่จะ Force buy มาสู้ได้ และไม่โดนจัดการในนัดเดียว อย่างไรก็ตาม Outlaw ที่เพิ่งเข้ามานี้จะไม่ปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ผู้เล่นจะต้องออมเงินอย่างเต็มที่เพื่อซื้อเกราะและปืนไรเฟิลเต็มจำนวนหลังจากแพ้ในรอบปืนพก เนื่องจากแม้แต่การซื้อ Sheriff หรือ Marshal ก็จะทำให้การเงินของทีมพัง และไม่พอที่จะซื้อเกราะเต็มในรอบถัดไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงราคา Outlaw อาจเป็นการลงทุนที่มีราคาแพงสำหรับทีมหลังจากที่แพ้ในรอบก่อนหน้า ดังนั้นคงต้องรอดูกันต่อไปว่าผู้เล่นมืออาชีพจะซื้อสักกี่คนหลังจากแพ้ ซึ่งเมื่อเทียบราคาแล้ว เงินที่ใช้ซื้อ Outlaw สามารถใช้ซื้อ Spectre หรือ Stinger พร้อมเกราะเต็มได้เลย

ผลกระทบเพิ่มเติมของปืน Outlaw สำหรับเมตาดาต้าของ Valorant

นอกเหนือจากเรื่องการเงินแล้ว Outlaw ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเมตาดาต้าอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ด้วยความเสียหายที่สูงถึง 140 ในตอนนี้ เหล่าเอเจนท์ที่เหมาะกับสไนเปอร์น่าจะตอบโจทย์และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Chamber และ Jett ต่างก็มีความโดดเด่นในเรื่องนี้ด้วยสกิล Rendezvous และ Tailwind แม้ว่าความสามารถเหล่านี้จะได้รับเนิร์ฟในปีที่ผ่านมา แต่ต้องขอบคุณ Outlaw ที่ทำให้พวกเขากลับมามีเก่งขึ้นได้อีกครั้ง

ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้อีกประการหนึ่งของอาวุธนี้ที่มีอยู่ในเกมคืออัตราการเลือกที่เพิ่มขึ้นสำหรับสายฮีลและ Controller เมต้าสอง Controller มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมในหลายแผนที่ ไม่ใช่แค่ความเก่งกาจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการปิดมุมอันตรายอีกด้วย

นอกจากนี้ เนื่องจากความเสียหาย 140 ดาเมจถือเป็นเรื่องใหญ่ การเลือกใช้เอเจนท์ที่สามารถฮีลได้อย่าง Sage หรือ Skye ก็อาจจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Skye มีชุดอรรถประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นที่นิยมอยู่แล้วในหลายแผนที่

ในแผนที่ทางไกลอย่าง Breeze และ Icebox เป็นแผนที่ที่เหมาะอย่างมากสำหรับอาวุธสไนเปอร์ และเมื่อมี Outlaw อาวุธนี้น่าจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย นอกจากนี้ยังมีราคาที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Marshal และ Operator ทำให้มันสามารถเลือกใช้ได้

ข้อเสียของ Outlaw 

แน่นอนว่า Outlaw ก็ไม่ได้ไร้ที่ติมากขนาดนั้น

คุณสามารถยิงกระสุนได้เพียงสองนัดก่อนที่จะต้องบรรจุกระสุนใหม่ หมายความว่าถ้าคุณไม่แม่นพอ ก็อาจจะไม่สามารถจัดการศัตรูได้อย่างทันท่วงที เวลาบรรจุก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณยิงออกไปแล้วทั้งสองนัด

ประการที่สอง อาวุธนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในล็อคมุมต่างๆด้วยสไนเปอร์ ดังนั้นหากคุณมีคู่ต่อสู้ที่มีระเบียบแบบแผนพร้อมแฟลชหรือ Smoke จำนวนมาก มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะหามุมยิงดีๆด้วย Outlaw ได้ การบุกอย่างรวดเร็วของศัตรูพร้อมกับสกิลมากมาย จะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ Outlaw นั้นน้อยลง

สิ่งสำคัญที่สุดคือปืนมีราคาที่ค่อนข้างแพงและน่าอึดอัดใจที่จะซื้อ โดย Outlaw มีราคาอยู่ที่ 2,400 Credits เกือบเทียบเท่ากับปืนไรเฟิลอย่าง Phantom และ Vandal ซึ่งเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสองปืนไรเฟิลดังกล่าวมีอรรถประโยชน์และการเล่นที่หลากหลายกว่ามากเมื่อเทียบกัน

อย่างไรก็ตาม Outlaw ก็ยังมีข้อดีที่มากกว่าข้อเสีย ปี 2024 น่าจะเห็นอาวุธนี้เข้ามามีบทบาทอย่างรวดเร็วในการเล่นระดับมืออาชีพ เว้นแต่ว่ามันจะถูกเนิร์ฟในแพตช์ต่อๆไป

สินค้า Valorant ที่คุณอาจสนใจ

บัตร Riot เติม Valorant 2,175 VP฿559
Keycap Valorant ปุ่มคีย์บอร์ดสกิลตัวละคร฿269
Secretlab Memory Foam Lumbar Pillow—Valorant Edition หมอนรองหลังเมมโมรี่โฟม฿3,200
บัตร Riot เติม Valorant 1,050 VP฿279
Valorant Gekko ชุดคอสเพลย์ เสื้อยืด แขนสั้น฿215

อ่านเพิ่ม: Valorant: รวมคำศัพท์ในเกมที่ผู้เล่นใหม่ต้องรู้