ในที่สุด ฤดูกาล VCT 2023 ก็เริ่มออกมาเป็นรูปเป็นร่าง โดย Riot Games ได้เปิดเผย 30 ทีมที่เป็นพาร์ทเนอร์ของValorant ในสามลีกนานาชาติ
ผลงานในการแข่งขันที่ผ่านมาไม่ใช่ประเด็นหลักในการพิจารณาของ Riot Games ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมทีมชั้นนำอย่าง OpTic Gaming และ FunPlus Phoenix จึงหลุดโควตา และนั่นก็ทำให้ผู้เล่นมากฝีมือเข้าสู่ตลาดในฐานะฟรีเอเยนต์ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมชั้นนำกำลังจับตามองพวกเขาอยู่
อย่างไรก็ตาม เพื่อ “รักษาเอกลักษณ์ประจำภูมิภาคของทีมที่เข้าร่วม VCT” Riot อนุญาตให้แต่ละทีมนำเข้าผู้เล่นจากนอกทวีประหว่างประเทศเพียงคนเดียวต่อทีม
VCT 2023: กฎรายชื่อ, ตลาดซื้อขาย และรายได้ขั้นต่ำ
กฎโครงสร้างรายชื่อ
ทีมที่ผ่านเป็นพาร์ทเนอร์กับ Riot Games จะต้องมีผู้เล่นภายในทีมอย่างน้อย 6 คน และมีสูงสุดได้ 10 คน ไม่รวมหัวหน้าโค้ชและผู้จัดการทั่วไปที่ต้องมีอย่างน้อย 1 คน โดยโค้ชสามารถมีได้สูงสุด 3 คนต่อทีม
โดยผู้เล่นชุดหลักอย่างน้อย 4 คนจะต้องเป็นคนของประเทศในทวีปนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ทีมสามารถใช้ผู้เล่นจากนอกทวีปได้เพียง 1 คน ตัวอย่างเช่น ทีมในลีกอเมริกาจะต้องมีผู้เล่นชุดหลัก 4 คนจากอเมริกาเหนือหรือใต้เป็นอย่างต่ำ
นอกจากนี้ Riot กำลังปรับเพิ่มอายุขั้นต่ำของผู้เล่นจาก 16 ปีเป็น 18 ปี ซึ่งผู้เล่นใน VCT 2023 จะต้องเกิดก่อนวันที่26 มีนาคม 2548 อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่อายุไม่เข้าเกณฑ์ แต่เคยลงแข่งขันในรายการ VCT แล้ว พวกเขาจะยังคงมีสิทธิ์ถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองให้ความยินยอม
การยืนยันบัญชีผู้เล่นและการซื้อขายผู้เล่น
ตลาดผู้เล่นก่อน VCT 2023 จะเปิดในวันที่ 26 กันยายน 2022 โดยทีมจะต้องส่งรายชื่อผู้เล่นคร่าวๆให้ Riot Games ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2022 พร้อมกับหลักฐานว่าผู้เล่นมีใบอนุญาตทำงานหรือวีซ่าที่จำเป็นในเมืองที่เป็นโฮสต์การแข่งขันของลีกนั้นๆ (Los Angeles, Berlin, Seoul)
อย่างไรก็ตาม การส่งรายชื่อยังไม่ใช่การยืนยันบัญชีผู้เล่น โดยองค์กรต่างๆยังสามารถปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นได้เรื่อยๆ จนกว่าตลาดผู้เล่นจะปิดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 ก่อนการแข่งขัน Kickoff tournament ใน São Paulo
หลังจากจบศึก Kickoff tournament ตลาดผู้เล่นจะเป็นอีกครั้งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างวันที่ 6 มีนาคม ถึง 25 มีนาคม 2023
สุดท้ายนี้ ผู้เล่นทุกคนของแต่ละทีมจะต้องมาถึงเมืองสำหรับการแข่งขันของลีกนั้นๆ ภายในวันที่ 19 มีนาคม 2023
เงินเดือนผู้เล่นขั้นต่ำ
- อเมริกา: US$50,000 (ประมาณ 1.87 ล้านบาท)
- EMEA: US$70,000 (ประมาณ 2.61 ล้านบาท)
- แปซิฟิก: US$47,500 (ประมาณ 1.77 ล้านบาท)
ตัวเลขดังกล่าวนี้จะไม่รวมเงินโบนัสอื่นๆ เช่น โบนัสตามผลงาน เงินรางวัล หรือผลประโยชน์อื่นๆ
นอกจากนี้ องค์กรต่างๆยังต้องหาที่พักสำหรับผู้เล่นและหัวหน้าโค้ชตลอดช่วงฤดูกาลแข่งขัน ซึ่งอาจรวมถึงบ้านพักทีมหรืออพาร์ตเมนต์สำหรับอยู่อาศัย และสถานที่บูทแคมป์สำหรับฝึกฝน ซึ่งควรจะมีประสิทธิภาพเพียงพอในการแข่งขันออนไลน์ได้ หากจำเป็น
อย่างไรก็ตาม สามารถอ่านรายละเอียดกฎการลงแข่งขันใน VCT 2023 เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านเพิ่ม: VCT 2023: สรุปรายชื่อทีมไม่ผ่านการคัดเลือกเป็นพาร์ทเนอร์
