ทีมชาติญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 อย่างเหนือความคาดหมายด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมทั้งการเอาชนะ 2 แชมป์โลกอย่าง เยอรมัน และ สเปน เบื้องหลังของพวกเขาคือการมีซอฟต์พาวเวอร์ชั้นเยี่ยมคือมังงะ เกี่ยวกับฟุตบอลที่ช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจชั้นดีให้กับเยาวชนในชาติ

จนกลายเป็นแรงผลักดันชั้นยอดให้เยาวชนในประเทศญี่ปุ่นหันมานิยมกีฬาฟุตบอลมากขึ้นจนทีมกลายเป็นทีมระดับแถวหน้าของทวีปเอเชียและเป้าหมายต่อไปคือก้าวไปสู่ทีมระดับโลก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซอฟต์พาวเวอร์อย่างมังงะ หรือการ์ตูนมีผลอย่างมาก ทั้งเรื่องราวที่ตัวเอกต่อสู้ฝ่าฟันในการแข่งขันตั้งแต่เวทีเยาวชนโลก หรือการเอาชนะทีมระดับแชมป์โลกในเวทีระดับโลก และการที่นักเตะญี่ปุ่นที่ไปค้าแข้งกับทีมชั้นนำในกัลโชเซเรียอา ที่ถือว่าเป็นลีกเบอร์หนึ่งของโลก ณ ขณะนั้น ซึ่งเรื่องราวที่เกิดในมังงะหลาย 10 ปีก่อน กลายเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ และนี่คือ 5 มังงะลูกหนังเรื่องเยี่ยมจากแดนอาทิตย์อุทัย

Blue Lock 

มังงะแนวโชเน็น (หรือโชเน็ง) หรือแนวสำหรับเด็กผู้ชายที่พร้อมจะจุดไฟของผู้อ่านให้ลุกโชนสำหรับเรื่อง Blue Lock  ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ฉีกจากมังงะที่เกี่ยวกับฟุตบอลแบบเดิมๆ ด้วยการใส่แนวคิดแบบสุดโต่งด้วยการรวมเอาสุดยอดกองหน้าทั้ง 300 คนมาอยู่ในที่เดียวกันเพื่อฝึกซ้อมและเฟ้นหาสุดยอดกองหน้าที่จะพาทีมชาติญีปุ่นไปเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ผู้อ่านจะได้สนุกไปกับการพัฒนาตัวละครและแนวคิดในการพัฒนารวมไปถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจริงในการพัฒนากีฬาฟุตบอล ถือว่าเป็นมังงะเกี่ยวกับฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความสดใหม่

GIANT KILLING

มังงะเกี่ยวกับลูกหนังที่น่าจะเน้นความสมจริงมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบจะเป็นจักรวาลคู่ขนานของเจลีก โดยผู้เขียนเล่าเรื่องราวของเจเอฟลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของญี่ปุ่นในเรื่อง ในเรื่องนี้มีเรื่องราวมากกว่าผลการแข่งขันในสนาม เพราะเล่าเรื่องราวองค์รวมของวงการลูกหนังทั้งองคาพยพตั้งแต่เรื่องการดีลกับสปอนเซอร์ การบริหารจัดการทีมและการรับมือกับสื่อมวลชน ซึ่งจะพาให้ผู้อ่านจมดิ่งไปกับความสมจริงของมังงะที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อสารว่าหากต้องการเป็นนักเตะอาชีพ หรือข้องเกี่ยวกับฟุตบอลอาชีพมีอะไรมากกว่าแค่เป็นการเตะฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น



Viva Calcio

ในยุค 90 คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าลีกกัลโชเซเรียอา อิตาลี คือลีกที่แข็งแกร่งเบอร์ 1 ของโลกในขณะนั้นเพราะอุดมไปด้วยนักเตะระดับโลกทั้ง รุย คอสต้า, โรแบร์โต บาจโจ้, กาเบรียล บาติสตูตา และนักเตะทั้งหมดก็ปรากฏตัวอยู่ในเรื่องจริงๆ โดยตัวเอกอย่าง โย ชีน่า ที่เป็นแค่เด็กนักเรียนญี่ปุ่นที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปตามหาความฝันและค้าแข้งกับ ฟิออเรนติน่า และได้เล่นเคียงข้างกับนักเตะระดับโลกในตอนนั้น ซึ่งการอ้างตัวตนจริงๆของนักเตะและความสมจริงทำให้ผู้อ่านอินไปเรื่องได้ไม่ยาก และใครจะเชื่อหลังจากนั้นนักเตะญี่ปุ่นหลายคนได้เดินทางไปค้าแข้งในเซเรียอาจริงๆ ตามรอยผู้บุกเบิกอย่าง “คิงคาซู”  คาซูโยชิ มิอูระ ที่เล่นกับเจนัว แต่พวกเขามี ฮิเดโตชิ นากาตะ ที่คว้าแชมป์เซเรียอากับ โรม่า หรือรุ่นหลังๆจาก เคซึเกะ ฮอนดะ ที่เล่นกับเอซีมิลาน รวมไปถึง ยูโตะ นางาโตโมะ ที่เป็นขวัญใจของแฟนๆอินเตอร์ มิลาน

J Dream

เป็นเรื่องราวที่จุดประกานฝันของทีมชาติญีปุ่นที่ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการได้เข้ารอบสุดบอลโลกรอบสุดท้าย มังงะเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นก่อนที่จะทีมชาติญี่ปุ่นจะได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตัวละครในเรื่องอย่าง อาคาโบชิ ทากะ เจ้าของเสื้อหมายเลข 0 ซึ่งเนื้อเรื่องอ้างอิงกับการพัฒนาวงการฟุตบอลของญีปุ่นจริงๆแบ่งตามภาค ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งลีกฟุตบอลอาชีพของประเทศญี่ปุ่น จนทีมเกือบได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี1994  การที่ทีมเยาวชนไปคว้าแชมป์โลก และสุดท้ายทีมชาติญี่ปุ่นทำฝันของตัวเองสำเร็จด้วยการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

Captain Tsubasa

ถ้ากล่าวถึงมังงะที่เกี่ยวกับฟุตบอลจากญี่ปุ่นหากไม่กล่าวถึงกัปตันซึบาสะเลยคงเป็นไปไม่ได้ เรื่องราวของ โอโซระ ซึบาสะ เด็กหนุ่มที่มีความฝันที่จะกลายเป็นสุดยอดนักเตะของเรื่องเริ่มตั้งแต่เล่นให้กับทีมนันคัตสึ ในระดับเยาวชนต่อสู้กับคู่ปรับคนอื่นๆที่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมชาติญี่ปุ่น และการได้ไปค้าแข้งในระดับโลกอย่างบาร์เซโลน่า การพาทีมชาติญี่ปุ่นไปแข่งขันทั้งระดับเยาวชนโลก และในระดับฟุตบอลโลก และทีมชาติญี่ปุ่นในมังงะเรื่องนี้ก็สามารถชนะทีมชาติเยอรมันได้ก่อน ก่อนที่เหตุการณ์ในมังงะจะกลายเป็นเรื่องจริงในฟุตบอลโลก 2022 หรือการที่นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นหลายคนได้ไปค้าแข้งกับทีมชั้นนำของโลก เหมือนอย่างที่ทีมชาติญี่ปุ่นชุดฟุตบอลโลกมีนักเตะแกนหลักจากสโมสรชั้นนำในยุโรปเกินกว่าครึ่งทีม

อ่านเพิ่ม: EP.1 เบื้องหลังการเดินทางสู่แชมป์ Overwatch ของ Patiphan