ปั้น – ปฏิภาณ “Patiphan” ไชยวงษ์ โปรเพลเยอร์ชาวไทยวัย 19 ปี ตัดสินใจคืนวงการ Valorant อีกครั้ง สร้างความฮือฮาทั้งในไทย และตามหน้าสื่ออีสปอร์ตต่างประเทศ หลังก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จกับ Overwatch ไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเขาเคยได้แชมป์ Valorant ในไทย และระดับภูมิภาค แต่ความสำเร็จบนเวทีชิงแชมป์โลก คือสิ่งที่เขายังไปไม่ถึง

การกลับมาของเขากับ Talon Esports หนึ่งเดียวจากไทยที่ได้ร่วมศึก VCT Pacific 2023 เกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมเขาถึงเลือกย้ายมา Talon? เป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร? ร่วมหาคำตอบได้ที่นี่



Round 2

Talon Esports เปิดตัวไลน์อัพใหม่ประกอบไปด้วย Crws, Sushiboys, Foxz 3 ผู้เล่นมากประสบการณ์ที่เคยผ่านเวทีระดับโลกมาแล้ว พร้อมด้วย Jitboys จาก FW Esports และ Garnets จาก 47 Gaming 

แต่ที่เซอร์ไพรส์ที่สุดหนีไม่พ้นการมาของ ปั้น ที่กลับสู่วงการ Valorant อีกครั้ง ซึ่งเขาจะได้ร่วมงานกับเพื่อนเก่ารวมถึงโค้ช Zeus ที่เคยลุยรายการนานาชาติ และชิงแชมป์โลกมาแล้วสมัยเล่นให้ X10

Patiphan
Credit: Riot Games

“ผมตัดสินใจไม่ยากที่กลับมาเล่น Valorant เพราะหลังแข่ง Stage 2 ผมเลิกเล่น Overwatch ไปนานแล้ว แต่เขาเพิ่งมาประกาศว่า ผมรีไทร์ การตัดสินใจกลับมาเล่นเพราะเป็นทีมเก่า ได้เล่นกับพี่ๆ กลุ่มเดิมการตัดสินใจไม่ยากเท่าไหร่” ปั้น เล่าถึงการตัดสินใจกลับมาแข่ง Overwatch ในทีมที่เต็มไปด้วยสมาชิกหน้าคุ้นเคย

“ตัวผมเองเคยอยู่ Talon Esports เมื่อปี 2019 (สมัยแข่ง Overwatch) ก็เลยรู้ว่า ข้างในทีมเขาทำงานอย่างไร การกลับมาครั้งนี้ก็ทำงานเหมือนเดิมซ้อมเหมือนเดิมรู้สึกเหมือนเดิม มันเป็นความรู้สึกเหมือนผมได้อยู่บ้าน”

จากประสบการณ์ที่ผ่านเวที Masters รวมถึง Valorant Champions มาแล้ว ทำให้การกลับมาของเขาย่อมถูกคาดหวังจากแฟนๆ โดยเฉพาะ Talon Esports เป็นเพียงทีมเดียวจากไทยที่ได้เล่นใน VCT Pacific แต่ทุกอย่างไม่ได้ส่งผลต่อความกดดันของ ปั้น เพราะเขามองว่า การเล่นให้ดีที่สุดคือสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แล้ว

“คลิปเปิดตัวผมกับ Talon ผมไม่ได้ดูตัวเองเลย ไม่รู้ด้วยว่า คนไทยตื่นเต้นการกลับมาของผมไหม แต่ถ้าคนไทยหรือแฟนๆ คาดหวัง มันก็เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องเล่นให้ดีที่สุด แต่ไม่ได้ส่งผลว่า ยิ่งคาดหวังจะยิ่งกดดัน แต่มันเป็นงานของผมที่ต้องเล่นให้ดีที่สุด”

ช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ปั้น ใช้เวลาทุ่มเทไปกับ Overwatch ทำให้เขาห่างหายจาก Valorant ไปพอสมควร ซึ่งช่วงเวลานั้นมีหลายทีมพัฒนาขึ้นผสมกับรูปแบบการแข่งขันที่จะแตกต่างออกไปจากที่เคยเป็น แต่ไม่ได้ทำให้ ปั้น รู้สึกกังวล

“ตอนผมยังแข่ง Valorant ผมยังมองว่า ทีมตัวเองเก่ง (X10) มันต้องมีสักช่วงที่ Meta หรือเอเจนท์มันเข้าทางของแต่ละทีม”

“ผมคิดว่า ทีมผมเล่นได้หลายแบบ มีวิธีเล่นใหม่ๆ เลยมองว่า คงใช้เวลาปรับตัวไม่ยาก แต่ถ้าเจอยุโรปก็เหมือนทุกครั้งที่เคยจะแข่งคือซ้อมกับเขาบินไปแข่งออฟไลน์ ส่วนใหญ่เราก็ดูจากการที่ซ้อม และแข่งว่าเขาเล่นอย่างไร ก่อนจะเจอเขาในสนามจริง”

“ผมตามดูทีมตัวเองแข่งมาตลอดตั้งแต่ตอนอยู่อเมริกา(ทีมชุดเก่าของ XERXIA) ผมเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีมมาตลอด พวกเขาเล่นเก่ง แต่ผลงานอาจยังไม่ดีพอถ้าเทียบ Paper Rex แต่การทำงานของผมมันอยู่กับความเชื่อใจ”

“แต่จนถึงตอนนี้ผมยังเชื่อว่า ทีมของผมเก่ง ผมกลับมาครั้งนี้ก็ยังคิดว่า ทีมผมเก่งที่สุด”


ต่อสู้เพื่อเติบโต

เขาอาจถูกมองเป็นผู้เล่นที่เก่งมากพรสวรรค์ แต่เบื้องหลังที่แท้จริง เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่ใส่ความพยายาม ทำงานหนักตลอด เขาไม่ใช่คนเก่งตั้งแต่เกิด แต่ความเชื่อในการทำงานหนักคือสิ่งที่ทำให้เขาก้าวสู่ผู้เล่นฝีมือดีเหมือนทุกวันนี้

“ผมเชื่อในกระบวนการทำงาน อย่างตอน Overwatch ผมซ้อมเยอะ แต่ไม่เคยเห็นผลลัพธ์ ซ้อมไปก็แพ้ตลอด แต่ผมทำต่อไปเรื่อยๆ ผมเคยท้อจนเกือบถอยแล้วด้วย แต่ผมผลักตัวเองให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น”

“ความพยายามที่เราทำไปมันอาจไม่ใช่แค่ 2-3 เดือนแล้วจะเห็นผล แต่ต้องใช้เวลากับมัน ทำไปเรื่อยๆ อาจดูเป็นคำตอบที่ใครก็พูดได้ แต่การลงมือทำจริงมันยาก เพราะต้องใช้แรงใจด้วย”

“ผมไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับแรงบันดาลใจ ทำให้วันไหนผมเบื่อหรือรู้สึกเหนื่อยมาก ผมก็ยังคงลุกขึ้นมาซ้อม ต่อได้ และจะทำให้ดีที่สุด ผมคิดว่า ตรงนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาตัวเองเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายเราตั้งไว้”

การกลับมา Valorant อีกครั้งกับ Talon Esports ทำให้หลายคนคาดหวังอยากเห็น “เหยี่ยวแดง” ไปถึงแชมป์สักรายการเมเจอร์ปี 2023 แต่สำหรับ ปั้น เป้าหมายของเขาต่างออกไป

Talon Esports VCT 2023

“ผมไม่ได้มองว่า ทีมเราจะอยู่อันดับเท่าไหร่ในโซนนี้ แต่ผมรู้สึกว่า พวกเราสามารถผ่านรอบคัดเลือกไป Champions ได้อยู่แล้ว ถ้าจะให้พูดก็คง Top 3 ของโซนเรา”

“ผมมองว่า การเป็นแชมป์มันยากขึ้น เพราะทีมหน้าใหม่เยอะ ทุกทีมเปลี่ยนไปเรื่อย การเล่นต่างกัน ทุกทีมเล็งแชมป์ ซึ่งถ้าพูดว่า ผมเล็งแชมป์คงดูทั่วไปเป็นคำตอบที่คาดหวัง”
“แต่ผมคงตอบว่า เป้าหมายของผมคืออยากเล่นให้เก่งกว่าตัวผมเองเมื่อสมัยก่อน” ปั้น ทิ้งท้าย

อ่านเพิ่ม: EP.1 เบื้องหลังการเดินทางสู่แชมป์ Overwatch ของ Patiphan