X10 CRIT ทีม Valorant ของไทย ล้มยักษ์จากอเมริกาเหนืออย่าง Team Envy ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีม ก่อนพ่าย Gambit Esports ทีมเต็งอันดับหนึ่ง ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ในศึก VALORANT Champions 2021 เป็นที่ยอมรับในระดับโลก

แต่ยังมีอีกหนึ่งทีมไทยได้ไปโชว์ศักยภาพ แม้จะตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่กลับฝากผลงานน่าจดจำ ทั้งที่เพิ่งลงแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งทีม และ FULL SENSE คือทีมที่เรากำลังกล่าวถึง

นี่คือทีมอีสปอร์ตที่มีทั้งคราบน้ำตาแห่งความเจ็บปวด และความสำเร็จ จากคำบอกเล่าของ ลัม – อิลัมราฮีม “LAMMYSNAX ” ข่านปาทาน หนึ่งในสมาชิกของ FULL SENSE กับเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่ร่วมฝ่าฟันลบคำดูถูกจนถึงวันที่พวกเขาไปเฉิดฉายบนเวทีโลก

“พวก_ึงไปไม่รอดหรอก”

May be an image of 9 people and people standing
Credit: FULL SENSE

ย้อนกลับไปในการแข่งขัน VALORANT Champions Tour 2021: APAC Last Chance Qualifier (LCQ) ซึ่งเป็นศึกชิงตั๋วใบสุดท้ายที่ทีมแชมป์จะได้โอกาสลุยรายการใหญ่ที่สุดของปีอย่าง VALORANT Champions 2021 ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน

X10 CRIT การันตีได้ลงเล่นรายการดังกล่าวแน่นอนแล้ว จากการทำแต้มเป็นอันดับหนึ่ง( 295 คะแนน) บนตารางคะแนน VCT 2021 – Southeast Asia Circuit Point Standings ที่ได้ตั๋วเข้ารอบอัตโนมัติ แต่ FULL SENSE ตรงกันข้าม เมื่อมีเงื่อนไขเดียว นั่นคือต้องคว้าแชมป์ LCQ มาครองจึงจะได้ลงเล่นที่เบอร์ลิน

ไม่มีใครคาดคิดว่า FULL SENSE จะผ่านเข้าไปคว้าแชมป์ในครั้งนั้น เพราะพวกเขาเป็นเพียงทีมนอกสายตาที่ยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติมาก่อน ยิ่งกว่านั้น นี่คือทีมที่เผชิญสารพัดคำดูถูกในวันที่พวกเขาตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อก่อตั้งทีม Valorant ภายใต้สังกัด FULL SENSE

เดิมทีสมาชิกของทีมเคยลงเล่นร่วมกันสมัยเล่นให้ King of Gamers Club (KoG) และ NG.Black (ยกเว้น PTC) จากความคุ้นเคยตั้งแต่ยุคที่ยังไม่ได้ลงแข่งจริงจัง ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้น พร้อมล่มหัวจมท้ายไปด้วยกัน

“เมื่อก่อนทีมเราก็เป็นคนปกติที่เล่นเกม” ลัม เล่าย้อนถึงวันแรกๆที่สมาชิก FULL SENSE รวมตัวกันเมื่อหลายปีก่อน

“เราเจอกันในเกม ก็เล่นลงแรงค์ด้วยกันมา ได้เจอกันรู้จักกันมาหลายปีมากๆ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุแค่ 14 แล้วก็ทำทีมกันขำๆ จากนั้นแยกย้ายกันไปเล่นทีมอื่นจนกลับมาเจอกันใหม่อีก และกลับมาแข่งด้วยกันอีกครั้ง” 

หลังจากอยู่กับ KoG และ NG.Black อยู่ช่วงหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็มาถึง เมื่อเปลี่ยนมาลงเล่นภายใต้สังกัด FULL SENSE เมื่อช่วงต้นปี 2021แต่พวกเขายังเป็นทีมนอกสายตา และถูกมองว่า ไม่มีวันประสบความสำเร็จกับเกม Valorant

ครึ่งหนึ่ง SuperBusS หนึ่งในสมาชิกผู้สร้างเสียงหัวเราะประจำทีม เคยเล่าความในใจที่พวกเขาต้องแบกรับมานานจากเสียงดูถูกของคนรอบข้าง เมื่อครั้งรวมทีมเพื่อลงแข่งขันรายการในประเทศว่า “เคยมีหลายคนดูถูกเรานะ มีคนเคยบอกกับตาล(JohnOlsen) ว่า มึงไปทีมอื่นเถอะ มึงทำกับเพื่อนไม่ประสบความสำเร็จหรอก เขาพูดแบบนี้เลย แต่ทุกวันนี้เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเราทำได้”

ประโยคดังกล่าวยังคงเป็นประโยคที่ทำให้สมาชิก FULL SENSE ผูกใจเจ็บ แต่ยิ่งทำให้อยากพิสูจน์ตัวเอง ที่สำคัญสมาชิกทุกคนยอมทิ้งอนาคตของตัวเองเพื่อตามความฝันบนเส้นทาง Valorant โดย SuperBusS เล่าว่า “จุดเริ่มต้นของทีมผมคือ กอล์ฟ(ChAlalala)ทำงานเป็นพนักงานในสนามบิน ยืนสแกนกระเป๋า ได้เงินเดือน 20,000 บาท แต่ตัดสินใจลาออกมาแข่งเกมกับเพื่อน”

“ตาลตอนนั้นเล่น CS:GO ลีกจีนจะดึงตัวไป เสนอเงินเดือนให้ 70,000 บาท แต่เล่นอยู่ไทยเงินเดือน 15,000 บาท มันคุยโทรศัพท์แล้วตอบกลับทางนั้นไปว่า ผมอยากเล่นกับเพื่อน มันยอมทิ้งเงินเดือน 70,000 บาท เพื่อมาเล่นกับเรา ส่วน ลัม(LAMMYSNAX) โดนพ่อดุ เพราะต้องการให้เอาดีเรื่องเรียน แต่ตัดสินใจขอมาแข่งเกม แต่เขาก็เรียนไปด้วยแข่งไปด้วย”

“ส่วนตัวผม แม่ให้ลาออกหยุดแข่ง แล้วกลับไปทำงานที่บ้าน แต่ผมบอกแม่ว่า ผมอยากเล่นเกมกับเพื่อนก่อน งานที่บ้านจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แม่แทบไล่ออกจากกองมรดก(หัวเราะ) แต่ช่วงหลังที่คุยกัน แม่ผมก็เข้าใจว่า เรากำลังทำอะไร”

สมาชิก FULL SENSE ต่างเดิมพันอนาคตเพื่อทำตามความฝันของตัวเอง นั่นทำให้เราได้เห็นอีกหนึ่งทีมไทย Valorant ฝีมือดีในการแข่งขัน LCQ ที่เล่นด้วยความมุ่งมั่นกับเป้าหมายอยากสัมผัสเวทีชิงแชมป์โลกสักครั้ง



โชว์ห้าว LCQ

ในศึก VALORANT Champions Tour 2021: APAC Last Chance Qualifier ทีม FULL SENSE สร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อชนะรวดจนถึงรอบชิงชนะเลิศในสายบน โดยเฉพาะเกมล้มยักษ์ NUTURN Gaming ที่เพิ่งคว้าอันดับ 3 ของโลกในรายการ VCT 2021: Stage 2 Masters – Reykjavík ก่อนจะแพ้ Northeption จากญี่ปุ่น ในรอบชิงสายบน 1-2 

แต่เส้นทางของพวกเขายังไม่จบลงเพียงเท่านี้…

FULL SENSE ได้แก้มือในสายล่างพบกับทีมแกร่งจากเกาหลีใต้ DAMWON Gaming โดยเปิดเกมได้ดุเดือด เมื่อโชว์ผลงานยอดเยี่ยมถล่มคู่แข่งขาดลอย 13-1 ตั้งแต่แมพแรก และไม่พลาดเก็บชัยชนะในแมพสอง ผ่านเข้าไปล้างตา Northeption อีกครั้งในรอบ Grand Finals 

เกมเริ่มต้นขึ้นภายใต้ความตึงเครียด เมื่อ Northeption ออกนำไปก่อน 1-0 แมพ ทำให้เกมกดดันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม FULL SENSE แก้คืนได้หวุดหวิดทำให้กลับมาเสมอ 1-1 แมพ ก่อนที่การแข่งขันจะดำเนินไปอย่างสูสีจนมาถึงเกมตัดสินในแมพสุดท้ายที่ต้องลุ้นสุดตัว ก่อนเป็น FULL SENSE ปิดเกมด้วยสกอร์ 13-8 คว้าแชมป์ LCQ ไปครอง พร้อมตั๋วลุยศึก VALORANT Champions 2021

หลังจบเกมสมาชิก FULL SENSE ต่างกระโดดดีใจในความสำเร็จของตัวเอง โดยเฉพาะ ลัม ที่ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะไม่ใช่แค่ได้ไปชิงแชมป์โลก แต่พวกเขาสามารถเอาชนะคำดูถูกกับทีมที่ถูกมองว่า ไม่มีทางไปรอด

“มันเป็นความรู้สึกที่พวกเราเก็บมานาน เพราะเราทำทีมกับเพื่อนกันตั้งเป้าหมายแค่ได้ไปต่างประเทศสักทัวร์แต่นี่เกินความคาดหมายมาก และเราทำตามเป้าหมายเราสำเร็จ”

“การเริ่มต้นทุกอย่างมักจะยากเสมอ แต่เราก็พยายามพิสูจน์ให้เห็นผ่านการกระทำมากกว่าที่จะออกไปเถียงหรือด่ากลับไป เราไม่สามารถพูดให้ทุกคนรักหรือเข้าใจเราได้ แต่การกระทำและผลงานของเราจะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ทุกอย่าง”

“การได้ไปเบอร์ลิน เรียกว่า เป็นการแข่งขันที่มีความหมายมากที่สุดในปีนี้เลยครับ เพราะพวกเราฝึกซ้อมอย่างหนัก และแข่งมาทั้งปีเพื่อทัวร์นาเมนต์นี้ก็ว่าได้”

“ตอนที่ชนะ ตื่นเต้นดีใจจนไม่ได้คิดอะไรเลยครับ แต่พอมีสติกันก็ต้องคิดกันต่อทันทีว่าจะเล่นอะไรกันยังไง เตรียมแผน เตรียมซ้อมกันหนักมากเพื่อที่จะทำมันให้ออกมาดีที่สุด” ลัม กล่าว

FULL SENSE ไม่หลงไปกับความสำเร็จที่เพิ่งเกิดขึ้น หลังกลับมาทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักทันที เพราะพวกเขาไม่อยากเป็นแค่ไม้ประดับใน VALORANT Champions 2021 แต่อยากแสดงฝีมือคนไทยให้ทั่วโลกได้เห็น

Gambit หยามหน้า

FULL SENSE ถูกจับอยู่ในกลุ่ม D ร่วมกับ Cloud9 Blue, Vision Strikers และ Fnatic ที่เคยคว้ารองแชมป์รายการ VCT 2021: Stage 2 Masters – Reykjavík และต้องลงเล่นเป็นคู่เปิดรายการพบกับ Vision Strikers จากเกาหลีใต้ 

ขณะเดียวกันก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น พวกเขายังโดน Gambit Esports แชมป์ VCT 2021: Stage 3 Masters – Berlin หยามหน้าในระหว่างซ้อม

“กับ Gambit เราเคยซ้อมไป 2-3 รอบ แต่เราไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย”

“เขาซ้อมชนะเราครั้งแรก แล้วครั้งที่สองอยู่ๆ เขาก็มาขอซ้อมเหมือนเขาให้โอกาสเรา เหมือนรอบแรกเขามองเราผิด แต่พอเจอกันอีกครั้งก็โดนบอกว่า พวก_ึงยังโง่เหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ไม่มาซ้อมกับเราอีกเลย แต่ยอมรับว่า ทีมเขายิงคมมาก”

การแข่งขันในวันแรกเริ่มต้นขึ้น FULL SENSE ดวลกับ Vision Strikers แต่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ 5-13 Round ทั้งสองแมพ เป็นการเปิดตัวไม่ดีนักในศึกระดับโลกครั้งแรก

“จริงๆเกมนั้นไม่กดดันเลยครับ เพราะเราก็สนุกไปกับเกมของเรา ทั้งการปรับตัว ปรับสภาพ ผมมองว่า ผมไปที่นั่นเพื่อเก็บประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปใช้ในการแข่งต่อๆไป แต่เกมกับ Vision Strikers ผลที่ออกมาไม่ดีอาจเป็นเพราะความตื่นสนาม และอ่อนซ้อมของพวกเราที่ทำให้ผลออกมาแบบนั้น”

“แต่พวกเรายังคงฝึกซ้อมหนัก มีการซ้อมมากขึ้นปรับรูปแบบแผนให้เข้ากับทีมที่จะเจอต่อไป”

FULL SENSE ได้แก้มืออีกครั้งเจอกับ Cloud9 ทีมดังจากโซน NA แต่หนนี้พวกเขาลงเล่นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ก่อนออกสตาร์ทแมพแรกแบบสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อเก็บไปได้ถึง 7 Round แต่แพ้ไป 7-13

“พวกเรามั่นใจเสมอในทุกๆแมพ แต่ว่าหลายๆยังไม่พร้อมสำหรับทีมเราเท่าไหร่เลยทำให้ผลออกมาไม่ดี แต่ตอนเก็บ 7 Round ในแมพแรกมันทำให้เราได้รู้ว่าเราก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ครับ เพิ่มความมั่นใจในแต่ละคนเพิ่มด้วย”

“เราก็พยายามเต็มที่กับทุกๆรอบ แพ้มาก็มีเสียใจบ้าง แต่ก็เอาใหม่ได้ครับ เกมมีแพ้มีชนะ ผมมองแค่ว่าเราแพ้ในเกมได้ แต่ชีวิตจริงเราต้องห้ามยอมแพ้”

แม้จะตกรอบอย่างรวดเร็ว แต่เกมกับ Cloud9 กลายเป็นที่พูดถึง เมื่อทีมจาก SEA สู้กับทีมจาก NA ได้ยอดเยี่ยม เพราะแมพสองพวกเขาแพ้ไปแบบฉิวเฉียด 12-14 FULL SENSE อาจไม่ได้ไปต่อในรอบต่อไป แต่ได้ประสบการณ์ดีๆมากมายจากการแข่งครั้งนี้

“ผลในเกมกับ Cloud9 ก็ไม่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ครับ เพราะเราพยายามเล่นอย่างเต็มที่ตามแผนที่เราฝึกซ้อมกันมาแล้ว ผลจะเป็นยังไงก็ต้องยอมรับกับมัน แล้วผมก็ชอบที่เราได้สนุกกับการเล่นบนเวทีด้วย”

“รายการนี้เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการแข่งขันเกมนี้มาเลยก็ได้ครับ เพราะเป็นงาน LAN ต่างประเทศในเกม Valorant ครั้งแรกของพวกเรา เรายังได้ทั้งบทเรียน และประสบการณ์จากการที่ได้แข่ง และซ้อมกับทีมที่เก่งที่สุดในแต่ละทวีปทั่วโลก ซึ่งโอกาสแบบนี้มันหาได้ยากมากๆ”

“แม้ปีนี้ผลงานเราอาจจะไม่ได้ดีตามที่เราตั้งเป้าไว้ แต่ปีหน้าเราจะกลับมาเต็มที่อีกแน่นอน…” ลัม กล่าวอย่างมุ่งมั่น

เราคือ FULL SENSE

May be an image of one or more people and text

VALORANT Champions 2021 ปิดฉากด้วยความงดงามสำหรับสองตัวแทนจากไทย X10 CRIT ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก ขณะที่ FULL SENSE ได้โชว์ฝีมือจนเป็นที่รู้จักบนเวทีระดับโลก ซึ่งไม่ใช่แค่ความภูมิใจของคนไทย แต่ยังเป็นความภูมิใจในฐานะตัวแทน SEA

“การไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่เป็นตัวแทนประเทศไทย แต่ผมมองว่า เราเป็นทีม1 ในทีมจาก SEA เรียกได้ว่า เป็นตัวแทนใน SEA เลยก็ว่าได้ ในมุมมองพวกผม พวกผมดีใจที่ตัวเองได้ไปแข่งในระดับโลก แต่ที่พวกผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากกว่าคือการที่เราได้ทำให้พ่อแม่ แฟนคลับทุกคน และสังกัดที่คอยซัพพอร์ตพวกเรา ไม่ผิดหวังในตัวพวกเรา”

“แต่ความทรงจำที่ดีที่สุดในรายการนี้คงเป็นการที่เราได้มาใช้ชีวิตในฐานะนักแข่งกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่เรารู้จักกันมา และไม่เคยคิดว่า จะมีวันนี้ แถมยังได้เจอเหตุการณ์ สนุก ตลกๆ กับทีมด้วย”

การแข่งขัน VALORANT Champions Tour 2022 จะกลับมาอีกครั้งในปีต่อไป ลัม และทีม FULL SENSE ยังคงมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงในทีม เนื่องจาก SuperBusS เตรียมถอยไปเป็นสตรีมเมอร์ และจะลงเล่นในบางทัวร์นาเมนต์ ซึ่งต้องรอติดตามต่อไปว่า โฉมหน้าทีม FULL SENSE จะเป็นอย่างไรในปีหน้า

แต่หนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเขาคือ การกลับไปร่วมศึกชิงแชมป์โลกอีกครั้งเพื่อพาตราทีม FULL SENSE ไปประดับบนเวทีที่ใหญ่ที่สุดของ Valorant

“ในปีนี้ผมคาดหวังว่า อยากเล่นกับเพื่อนๆต่อไป ได้แข่งไปกับทุกๆคน แต่ก็รักษามาตรฐานของทีมไว้ในระดับสูงๆ แต่ในปีหน้าก็คงต้องยกระดับตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมและโฟกัสทัวร์นาเมนต์ต่างประเทศเป็นหลัก”

“ในปีหน้าทางทีมเราได้มีการปรับเปลี่ยนระบบทีมเยอะเลยทีเดียว ผมไม่สามารถบอกได้ว่า จะมีอะไรบ้าง แต่เป้าหมายของเรา คือการที่เราจริงจังกับทุกอย่างแบบสุดๆ โฟกัสมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และที่เราหวังก็คงเป็นการได้ไปร่วมในรายการ ต่างประเทศอีกในรอบลึกๆหรือรอบชิงเลยครับ”

“สุดท้ายขอบคุณแฟนๆทุกคนที่เชียร์มาถึงทุกวันนี้มากๆ เพราะว่ามันมีความหมายกับพวกเราทุกๆคนในสังกัดมากๆเลยครับ และต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ผิดหวัง”

“แต่ปีหน้า ผมมั่นใจว่า เราจะกลับมาโลดแล่นบนรายการนี้ต่อไปแน่นอน” ลัม กล่าวทิ้งท้าย

อ่านเพิ่ม: ตราตรึงใจ! Top 10 ช็อตเด็ดจาก Valorant Champions 2021