Deadlock นำเสนอรูปแบบการเล่นแบบใหม่ให้กับ Valorant ที่ผู้เล่นสามารถใช้เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน

แทนที่จะทดสอบเอเจนท์รายที่ 23 ของ Valorant ด้วยตนเองในทุกแผนที่ นี่คือลิสต์ 4 แผนที่ที่ดีที่สุดสำหรับ Deadlock 

ก่อนที่เราจะลงลึกในแผนที่ เรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถของเอเจนท์ Deadlock เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่เฉพาะใน Valorant ที่เธอทำงานได้ดี


ไกด์ Valorant
Deadlock: สกิลและความสามารถเอเจนท์ Valorant รายที่ 23
Valorant: รวมคำศัพท์ในเกมที่ผู้เล่นใหม่ต้องรู้
3 ไอเทมต้องโดนใน Valorant Episode 7 Act 1 Battle Pass

วิธีการเล่น Deadlock

วิธีการเล่น Deadlock

Deadlock มีความแตกต่างไปจากเอเจนท์ในตำแหน่งเดียวกันอย่าง Killjoy, Chamber และ Cypher ที่พึ่งพาเซตสกิลต่างๆและการวางตำแหน่งอย่างมีกลยุทธ์ แต่รูปแบบการเล่นของ Deadlock จะอยู่ที่ความสามารถในการปรับตัวและการตัดสินใจซึ่งจะเพิ่มศักยภาพสูงสุดให้กับทีมของเธอ

แม้ว่า Deadlock อาจไม่เก่งกาจในการป้องกันการถูกลอบเข้าด้านหลัง เมื่อเทียบกับเอเจนท์ Sentinel ตัวอื่นๆ แต่ความสามารถเฉพาะตัวของเธออย่าง GravNet และ Barrier Mesh สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเครื่องมือในการชะลอการบุกของศัตรู

ในขณะเดียวกัน Sonic Sensor ของ Deadlock ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด แม้มันอาจจะไม่สามารถกันการลอบเข้าด้านหลังได้ แต่มันก็เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการหยุดคู่ต่อสู้ที่โจมตีและทำให้ผู้ป้องกันขัดขวางได้ยาก

สุดท้ายนี้ สกิลอัลติเมตของ Deadlock อย่าง Annihilation มีศักยภาพในการการันตีชัยชนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสกิลดังกล่าวจะสามารถจับศัตรูได้หนึ่งคน ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อทีมตรงข้ามและบังคับให้พวกเขาต้องพยายามช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม

แผนที่ Valorant ที่ดีที่สุดสำหรับเล่น Deadlock

Ascent

สกิลป้องกันของ Deadlock สามารถใช้ได้ในพื้นที่ A main, B main และ A short ซึ่งเป็นสามพื้นที่ที่มีการต่อสู้กันบ่อยครั้งใน Ascent

Deadlock สามารถชะลอการบุกและซื้อเวลามากขึ้นก่อนที่ผู้โจมตีจะเข้าควบคุมไซต์ A และ B โดยใช้ GravNet ของเธอ นอกจากนี้ การวาง Sonic Sensor ของเธอใกล้กับสวิตช์ประตูของทั้งสองไซต์จะทำให้ผู้โจมตีตกอยู่ในตำแหน่งที่ลำบาก และทำให้ผู้ป้องกันสามารถยึดไซต์ได้ง่ายขึ้น

Deadlock สามารถติดตั้ง GravNet ของเธอในการโจมตีที่ตำแหน่งสำคัญบนไซต์ A เช่น ด้านหลัง Generator หรือกล่องบริเวณกลางไซต์ B ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ฝ่ายป้องกันที่อยู่ในไซต์เล่นได้ยากขึ้นกว่าเดิม

Fracture

Fracture เป็นแผนที่ที่มีทางเข้ามากมายในแต่ละไซต์ แทนที่จะวางความสามารถของ Deadlock ไว้ในพื้นที่ต่างๆ ของแผนที่ ความสามารถของเธอจะเหมาะสมกว่าภายในไซต์ 

และอย่าลืมใช้ Sonic Sensor ของ Deadlock ในการดักการบุกที่รวดเร็วของศัตรู แทนที่จะใช้เพื่อตรวจจับว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ที่ไหน เพราะผู้เล่นที่เค้าพยายามจะลอบเข้าหลัง เขาจะไม่ส่งเสียงออกมาและสกิลจะไม่สามารถตรวจจับได้

Barrier Mesh ของ Deadlock จะชะลอการผลักของทีมโจมตีและการโจมตีกลับของทีมป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม นี่เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกทีม เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะแยกกันไปคนละทางในการบุกเข้าไซต์หรือการยึดไซต์คืน

Pearl

สำหรับไซต์ B ในแผนที่ Pearl นั้นยากสำหรับการป้องกันเสมอ แต่ Deadlock อาจเป็นคำตอบที่เรารอคอย โดย Barrier Mesh ของเธอจะปฏิเสธผู้โจมตีไม่ให้เดินเข้าไปในไซต์ B ได้อย่างอิสระ และยังสามารถป้องกัน Wingman ของ Gekko ไม่ให้เข้าไปวางระเบิดได้อีกด้วย 

การวาง Sonic Sensor ของเธอในโถงไซต์ B และบริเวณไซต์จะทำให้ผู้โจมตีต้องระวังตัวมากขึ้น และทำให้เพื่อนร่วมทีมของ Deadlock มีเวลามากขึ้นในการโยกไปไซต์ B

Deadlock ยังมีข้อได้เปรียบในไซต์ B เนื่องจากสกิล Annihilation ของเธอเหมาะสำหรับสถานการณ์การ Post plant อย่างมาก และกลยุทธ์นี้ยังใช้ได้กับการป้องกันหากพวกเขาออกไป Post plant Deadlock ก็สามารถใช้สกิลดังกล่าวใส่ผู้เล่นที่อยู่บริเวณ B Ramp ได้เช่นกัน

Bind

สกิลของ Deadlock จะมีประสิทธิภาพอย่างมากในทางเดินแคบๆของ Bind และเช่นเดียวกับ Ascent การโยน GravNet ของเธอจะทำให้ผู้โจมตีเจาะเข้าไปในไซต์ A และ B ได้ยาก

นอกจากนี้ Sonic Sensor ของเธอจะทำให้ผู้โจมตียากที่จะเคลียร์มุมต่างๆ ของทั้งสองไซต์ เนื่องจากพวกเขาจะต้องระวังและคอยหลบสกิลนี้อยู่ตลอด ข้อดีอีกอย่างของ Deadlock ที่มีต่อ Bind คือเธอสามารถปิดกั้นทางเข้าและทางออกของเครื่องเทเลพอร์ตได้ ซึ่งทำให้ศัตรูโยกไซต์ได้ยากขึ้นอีกเท่าตัว

อ่านเพิ่ม: Valorant: วิธีทำลาย Annihilation ของ Deadlock เพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีม