Team Deathmatch เป็นโหมดที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาใน Valorant พร้อมกับ Episode 7 Act 1
โดย Valorant Team Deathmatch เป็นโหมดที่เล่นกันในแผนที่ที่ออกแบบใหม่สามแผนที่ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การสังหารศัตรูให้ครบ 100 Kills มาพร้อมกับกลไกการเล่นเกมใหม่ที่คุณสามารถเลือกใช้อาวุธในแต่ละระดับได้ตามใจชอบ
โหมดนี้โดดเด่นในฐานะประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเมื่อเทียบกับโหมดก่อนๆ มันผสมผสานองค์ประกอบจากเกมแนว FPS ที่ต้องวัดความคม และการใช้ความสามารถของเอเจนท์อย่างมีกลยุทธ์
ONE Esports ได้นั่งคุยกับ Coleman Palm ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Riot Games และ Kyle Morgenroth วิศวกรซอฟต์แวร์ของ Valorant ในการสัมภาษณ์พิเศษที่ VCT Masters Tokyo และพูดคุยถึงวิธีการสร้าง TDM และวิธีการเล่นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในช่วงแรก
ผู้เล่นสามารถดังก์ใส่ศัตรูได้ในเวอร์ชันเริ่มต้นของ Valorant Team Deathmatch
![ผู้เล่นสามารถดังก์ใส่ศัตรูได้ในเวอร์ชันเริ่มต้นของ Team Deathmatch ของ Valorant](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/07/Valorant_Raze_TheColoroftheTown_YearOneCelebration-1024x576-1.jpg)
ในช่วงแรกของการพัฒนา TDM Morgenroth อธิบายถึงวิธีที่พวกเขาใช้“กลไกการเล่นเกมที่ซับซ้อน” ของ Valorant ในพื้นที่กะทัดรัด พวกเขายังต้องการให้ผู้เล่นมีตัวเลือกในแง่ของการโหลดอาวุธและตัวเลือกการต่อสู้ ในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ที่เหมาะสมและเต็มไปด้วยแอ็คชัน
“Team Deathmatch เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งหรือเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ สำหรับเราในการจัดเกมเตรียมที่มีเวลาการเล่นสูงแต่เล่นแบบชิลๆได้แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นฐานการแข่งขันและประสบการณ์หลักของเกม” Palm กล่าว
ในขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอนการออกแบบ Morgenroth ได้แชร์ว่า TDM เวอร์ชันเริ่มต้นดูแตกต่างไปมากเมื่อเทียบกับเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นแนวคิดการทดลองที่ฟังดูเหมือน Rocket League มากกว่า FPS
“มีอยู่ช่วงหนึ่ง มันเป็นเหมือนกับการที่คุณเอาบอลไปดังก์ใส่เข้าประตูของคู่ต่อสู้ได้” Morgenroth กล่าว ““ผมจำได้แค่ว่า Sage ปิดประตูของเรา และ Raze ศัตรูก็มาพร้อมกับลูกบอล บินข้ามกำแพง Sage และดังก์ลงไป”
![](https://cdn.oneesports.co.th/cdn-data/sites/3/2023/07/Valorant_TeamDeathmatchMode_Map_2-1024x576-1.jpg)
Team Deathmatch เวอร์ชันแรกเป็น “ประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” แทนที่จะใช้โหมดที่เน้นการโฟกัสเป้าหมาย Morgenroth อธิบายว่าพวกเขาต้องการมุ่งเน้นไปที่วิธีที่พวกเขาสามารถเข้าใจในสิ่งที่ผู้เล่นชื่นชอบเกี่ยวกับ Valorant อยู่แล้ว
“กลไกบ้าๆบอๆ เหล่านี้ทำให้ประสบการณ์ที่อยากได้มันลดลง” Palm กล่าว ““นั่นคือเวลาที่ระบบและกลไกของเราจำนวนมากเริ่มมีความสำคัญน้อยลง เราต้องการให้การต่อสู้หลักของ Valorant เป็นสิ่งที่เราสนับสนุนได้ดีที่สุด”
Riot Games มองว่า Team Deathmatch เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดเล่นที่ใช้เวลาเยอะ แต่สามารถเล่นได้แบบไม่เครียด พร้อมทั้งประสบการณ์การแข่งขันพื้นฐานสำหรับผู้เล่น
อย่างไรก็ตาม ทีมงานกำลังประเมินตำแหน่งของโหมดโดยรวมของ Valorant อย่างต่อเนื่อง พวกเขาต้องการให้แน่ใจว่าโหมดอื่นๆ เช่น Competitive, Unrated และ Swiftplay นั้นยังคงดีอยู่ เป้าหมายต่อเนื่องของพวกเขาคือการมอบประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นที่แตกต่างกัน Palm กล่าวเสริม
สามารถติดตาม Instagram และ Tiktok ของ ONE Esports สำหรับคอนเทนต์ Exclusive เพิ่มเติม
อ่านเพิ่ม: Valorant: เรียนรู้วิธีการยิงแบบ Quick Scope จากเหล่ายอดโปร