Team Deathmatch เป็นโหมดที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาใน Valorant พร้อมกับ Episode 7 Act 1 

โดย Valorant Team Deathmatch เป็นโหมดที่เล่นกันในแผนที่ที่ออกแบบใหม่สามแผนที่ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การสังหารศัตรูให้ครบ 100 Kills มาพร้อมกับกลไกการเล่นเกมใหม่ที่คุณสามารถเลือกใช้อาวุธในแต่ละระดับได้ตามใจชอบ

โหมดนี้โดดเด่นในฐานะประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเมื่อเทียบกับโหมดก่อนๆ มันผสมผสานองค์ประกอบจากเกมแนว FPS ที่ต้องวัดความคม และการใช้ความสามารถของเอเจนท์อย่างมีกลยุทธ์

ONE Esports ได้นั่งคุยกับ Coleman Palm ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Riot Games และ Kyle Morgenroth วิศวกรซอฟต์แวร์ของ Valorant ในการสัมภาษณ์พิเศษที่ VCT Masters Tokyo และพูดคุยถึงวิธีการสร้าง TDM และวิธีการเล่นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในช่วงแรก



ผู้เล่นสามารถดังก์ใส่ศัตรูได้ในเวอร์ชันเริ่มต้นของ Valorant Team Deathmatch

ผู้เล่นสามารถดังก์ใส่ศัตรูได้ในเวอร์ชันเริ่มต้นของ Team Deathmatch ของ Valorant
Screenshot by Nigel Zalamea/ONE Esports

ในช่วงแรกของการพัฒนา TDM Morgenroth อธิบายถึงวิธีที่พวกเขาใช้“กลไกการเล่นเกมที่ซับซ้อน” ของ Valorant ในพื้นที่กะทัดรัด พวกเขายังต้องการให้ผู้เล่นมีตัวเลือกในแง่ของการโหลดอาวุธและตัวเลือกการต่อสู้ ในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ที่เหมาะสมและเต็มไปด้วยแอ็คชัน

“Team Deathmatch เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งหรือเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ สำหรับเราในการจัดเกมเตรียมที่มีเวลาการเล่นสูงแต่เล่นแบบชิลๆได้แต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นฐานการแข่งขันและประสบการณ์หลักของเกม” Palm กล่าว

ในขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอนการออกแบบ Morgenroth ได้แชร์ว่า TDM เวอร์ชันเริ่มต้นดูแตกต่างไปมากเมื่อเทียบกับเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นแนวคิดการทดลองที่ฟังดูเหมือน Rocket League มากกว่า FPS

“มีอยู่ช่วงหนึ่ง มันเป็นเหมือนกับการที่คุณเอาบอลไปดังก์ใส่เข้าประตูของคู่ต่อสู้ได้” Morgenroth กล่าว ““ผมจำได้แค่ว่า Sage ปิดประตูของเรา และ Raze ศัตรูก็มาพร้อมกับลูกบอล บินข้ามกำแพง Sage และดังก์ลงไป”

Credit: Riot Games

Team Deathmatch เวอร์ชันแรกเป็น “ประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” แทนที่จะใช้โหมดที่เน้นการโฟกัสเป้าหมาย Morgenroth อธิบายว่าพวกเขาต้องการมุ่งเน้นไปที่วิธีที่พวกเขาสามารถเข้าใจในสิ่งที่ผู้เล่นชื่นชอบเกี่ยวกับ Valorant อยู่แล้ว

“กลไกบ้าๆบอๆ เหล่านี้ทำให้ประสบการณ์ที่อยากได้มันลดลง” Palm กล่าว ““นั่นคือเวลาที่ระบบและกลไกของเราจำนวนมากเริ่มมีความสำคัญน้อยลง เราต้องการให้การต่อสู้หลักของ Valorant เป็นสิ่งที่เราสนับสนุนได้ดีที่สุด”

Riot Games มองว่า Team Deathmatch เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดเล่นที่ใช้เวลาเยอะ แต่สามารถเล่นได้แบบไม่เครียด พร้อมทั้งประสบการณ์การแข่งขันพื้นฐานสำหรับผู้เล่น

อย่างไรก็ตาม ทีมงานกำลังประเมินตำแหน่งของโหมดโดยรวมของ Valorant อย่างต่อเนื่อง พวกเขาต้องการให้แน่ใจว่าโหมดอื่นๆ เช่น Competitive, Unrated และ Swiftplay นั้นยังคงดีอยู่ เป้าหมายต่อเนื่องของพวกเขาคือการมอบประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นที่แตกต่างกัน Palm กล่าวเสริม

สามารถติดตาม Instagram และ Tiktok ของ ONE Esports สำหรับคอนเทนต์ Exclusive เพิ่มเติม

อ่านเพิ่ม: Valorant: เรียนรู้วิธีการยิงแบบ Quick Scope จากเหล่ายอดโปร