ในฐานะนักแม่นปืน Valorant ต้องการมากกว่าแค่การเล็งที่ดีและการรู้วิธีใช้สกิลของคุณ นั่นก็คือการทำความเข้าใจการเงินของเกมเพื่อเพิ่มศักยภาพของทีมของคุณ

ในคำแนะนำนี้ เราจะให้รายละเอียดการเงินต่างๆใน Valorant และวิธีใช้ความเข้าใจของคุณเพื่อช่วยให้ทีมของคุณได้รับชัยชนะ


VCT 2023
VCT 2023 Pacific League: ตารางการแข่งขัน ผล รูปแบบ ช่องทางการรับชม
VCT 2023 EMEA League : โปรแกรม ผลการแข่ง รูปแบบ ช่องทางรับชม
VCT 2023 Americas League: โปรแกรม ผล และช่องทางรับชม
ผู้เล่นตัวตึงจาก 10 ทีมใน VCT 2023: Pacific League
ผู้เล่นตัวตึงจาก 10 ทีมใน VCT 2023: EMEA League
ผู้เล่นตัวตึงจาก 10 ทีมใน VCT 2023: Americas League

การเงิน Valorant 101

เริ่มจากพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของ Valorant นั้นขับเคลื่อนด้วย Credits ซึ่งคุณสามารถใช้ซื้ออาวุธ เกราะ และสกิลต่างๆในร้านค้าได้ ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 วิธีที่คุณจะได้รับ Credits เพิ่มเติมในเกม

อย่างแรกคือการกำจัดศัตรู โดยการฆ่าแต่ละครั้งจะมอบ 200 Credits

อย่างที่สองคือการวาง Spike ซึ่งจะมอบ 300 Credits ให้กับผู้เล่นทุกคนในทีมฝ่ายบุก ในขณะที่การกู้ Spike ของทีมป้องกันจะไม่ให้ Credits เพิ่มเติมใดๆ

วิธีที่สามคือคว้าชัยชนะในแต่ละรอบ โดยผู้เล่นแต่ละคนจากทีมที่ชนะจะได้รับ 3,000 Credits 

วิธีสุดท้ายในการรับ Credits คือการแพ้ โดยผู้เล่นทั้งหมดจากทีมที่แพ้จะได้รับ 1,900 Credits หลังจากการแพ้แต่ละครั้ง และจะได้รับ Credits เพิ่มเติมมากขึ้นหากแพ้ติดต่อกัน

หลังจากแพ้รอบที่สองติดต่อกัน ทีมที่แพ้จะได้รับ Credits เพิ่ม 500 Credits นั่นคือจำนวน 2,400 Credits ที่ได้รับสำหรับการแพ้สองรอบติดต่อกัน และสำหรับการแพ้มากกว่า 3 รอบเป็นต้นไป ทีมที่แพ้จะได้รับโบนัส 1,000  Credits ซึ่งเท่ากับ 2,900 Credits

โปรดทราบว่าโบนัสการแพ้จะจบลงทันทีที่ทีมชนะ ซึ่งหมายความว่าหากคุณชนะรอบหนึ่งหลังจากที่คุณได้รับ 2,900 Credits รอบถัดไปที่ทีมแพ้จะกลับไปเริ่มต้นด้วยการได้เพียง 1,900 Credits สำหรับรอบที่แพ้


การซื้อในแต่ละรอบ

ตอนนี้คุณเข้าใจเกี่ยวกับตัว Credits แล้ว มาดูกันว่าคุณสามารถซื้ออะไรกับจำนวน Credits ในแต่ละรอบได้บ้าง ในช่วงเริ่มต้นของแต่ละรอบ คุณสามารถเปิดร้านค้าด้วยการกด B เพื่อซื้ออาวุธ เกราะ และสกิลของตัวละคร และนี่คือรายการอาวุธและเกราะที่คุณสามารถซื้อได้:

ปืนพก 

  • Classic – Free
  • Shorty – 150
  • Frenzy – 450
  • Ghost – 500
  • Sheriff – 800

ปืน SMG

  • Stinger – 950
  • Spectre – 1,600

ปืน Rifle 

  • Bulldog – 2,050
  • Guardian – 2,250
  • Phantom – 2,900
  • Vandal – 2,900

ปืนลูกซอง

  • Bucky – 850
  • Judge – 1,850

ปืน Sniper 

  • Marshal – 950
  • Operator – 4,700

ปืนกลหนัก

  • Ares – 1,600
  • Odin – 3,200

เกราะ

  • เกราะเล็ก – 400
  • เกราะใหญ่ – 1000

ในส่วนของสกิล เอเจนท์แต่ละคนจะมีราคาสกิลที่แตกต่างกัน แต่จำไว้ว่าความสามารถคุณจะไม่หายไปไหนแม้ว่าคุณจะตายในรอบดังกล่าว ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว คุณควรจะซื้อสกิลพวกนี้ไว้แต่เนิ่นๆ เนื่องจากว่ามันค่อนข้างจำเป็นสำหรับการเล่นกับทีมของคุณ


วิธีการใช้ Credits ให้คุ้มที่สุดในแต่ละรอบ

รอบปืนพก

Viper Valorant

การเงินของทีมของคุณในช่วงต้นของแต่ละครึ่งจะถูกกำหนดด้วยรอบปืนพก เนื่องจากทีมที่ชนะรอบปืนพกมักจะชนะในรอบถัดไปเช่นกัน

คุณจะมี 800 Credits สำหรับรอบปืนพก และโดยปกติแล้วจะเป็นการดีที่สุดที่จะใช้ 500 Credits ในการซื้อปืน Ghost อาวุธนี้เป็นตัวช่วยอย่างมากในการชนะรอบปืนพก เนื่องจากมีความแม่นยำและสร้างความเสียหายได้สูงในระยะ 30 เมตร 

หากคุณชนะรอบปืนพก คุณจะได้รับมากกว่า 3,000 Credits นรอบต่อไป จากนั้นคุณสามารถใช้มันเพื่อซื้อชุดเกราะ สกิล และอาวุธที่ดีกว่าเพื่อช่วยให้ทีมของคุณเก็บชัยชนะต่อเนื่อง

หากคุณเชื่อมั่นในความแม่นยำของคุณ เซตอาวุธที่เหมาะสำหรับคุณคือการซื้อปืน Bulldog พร้อมกับเกราะใหญ่ แต่คุณจะต้องมีเงินเหลืออย่างน้อย 100 Credits จากรอบปืนพก 

หรือคุณอาจจะซื้อเป็น Vandal หรือ Phantom ซึ่งทั้งสองมีราคาที่ 2900 Credits ทั้งสองเป็นไรเฟิลระยะกลางที่ยอดเยี่ยมด้วยดาเมจที่สูง Phantom นั้นเล่นง่ายกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณไม่มั่นใจในการยิง Headshot แต่ Vandal จะสร้างความเสียหายต่อนัดได้มากกว่า และสามารถยิงเฮดช็อตครั้งเดียวใส่เป้าหมายที่มีเกราะเต็มได้ในเกือบทุกระยะ

รอบ Full buys

การ Full buys หมายถึงเมื่อคุณซื้ออาวุธเช่นปืน Rifle และ Sniper พร้อมกับเกราะและสกิลแบบจัดเต็ม ซึ่งหมายความว่าคุณจะแข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าจะเสียเงินไปมากกว่า 4,500 Credits หรือมากกว่านั้น

เพื่อให้ได้รับ Credits เพียงพอสำหรับการซื้อแบบ Full buys ทีมของคุณจะต้องชนะสองรอบติดต่อกันหรือแพ้สามรอบติดต่อกัน เมื่อพิจารณาถึงการใช้เงินและการประหยัดระหว่างแต่ละรอบ

คุณควรซื้อแบบ Full buys เสมอหรือไม่?

สำหรับคำตอบก็คือ ไม่ คุณไม่ควรใช้ Credits ทั้งหมดที่คุณมีเมื่อเริ่มรอบ แม้ว่ามันจะช่วยให้คุณมีทุกอย่างที่คุณต้องการ ซึ่งบางครั้งการประหยัดและให้ทีมของคุณมีโอกาสชนะด้วยชุดอุปกรณ์ที่ดีกว่าในรอบต่อไปก็อาจจะดีกว่า

หากต้องการทราบว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อแบบ Full buys หรือไม่ ให้ตรวจสอบการเงินของทีมคุณก่อน หากคุณเห็นว่าเพื่อนร่วมทีมของคุณทั้งหมดหรือส่วนใหญ่มี Credits เพียงพอสำหรับการซื้อแบบ Full buys ก็สามารถซื้อได้เลย แต่ถ้าไม่ ก็น่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะ “ประหยัด” หรือเก็บ Credits ของคุณไว้สำหรับรอบถัดไป

ตัวอย่างเช่นหนึ่งในสถานการณ์ที่พบบ่อยที่สุด คุณจะสามารถซื้อแบบ Full buys ได้แน่นอนหลังจากชนะสามรอบติดต่อกัน ในสถานการณ์นั้น ทีมของคุณควรแข็งแกร่งที่สุดในขณะที่ทีมอื่นน่าจะมี Credits ไม่เพียงพอที่จะซื้ออาวุธต่างๆ 

และหากคุณมี Credits ไม่เพียงพอที่จะซื้ออาวุธ คุณสามารถขอเพื่อนร่วมทีมของคุณให้ซื้อให้คุณได้


สิ่งที่ต้องรู้และจำ

สุดท้ายแล้ว ตรวจสอบกระดานคะแนนเมื่อเริ่มแต่ละรอบเพื่อดูการเงินของทีมคุณและทีมศัตรู และคำนวณที่สิ่งคุณต้องซื้อในแต่ละรอบให้ดีๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นว่าทีมศัตรูไม่มี Credits น้อย นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจใช้ปืนพก หรืออาจจะซื้อแบบ Force buys มาก็ได้ 

จับตาดูที่มุมซ้ายบนของหน้าร้านค้าเสมอเพื่อดูจำนวน Credits ของคุณในรอบต่อไป

ใช้ Credits ทั้งหมดของคุณในรอบที่ 12 และ 24 เนื่องจากหลังจากการสลับฝั่ง Credits ของคุณจะกลับไปเริ่มต้นที่ 800 Credits ใหม่ในรอบปืนพก 

ในช่วง OT หรือรอบที่ 25 ผู้เล่นทุกคนจะมี 5,000 Credits แต่สกิลทุกอย่างจะต้องซื้อใหม่หมด แม้ว่านั่นจะเพียงพอสำหรับการซื้อแบบ Full buys แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่คุณไม่สามารถเตรียมความสามารถทั้งหมดที่ซื้อได้ของคุณให้พร้อมได้

อ่านเพิ่ม: Valorant: คู่มือเริ่มต้นของผู้เล่นใหม่สำหรับเกมแนว FPS