แผนที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ในชีวิตจริงของ Valorant เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของเกม ซึ่งมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ของผู้เล่น เมตา และเอเจนท์ แม้แต่ในหมู่ผู้เล่นระดับโปรก็ตาม

แต่ละแผนที่นำเสนอกลไกการเล่นและกลยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่ Ascent ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเวนิสไปจนถึง Bind ที่มาในธีมโมร็อกโก

ผู้เล่นชั้นนำของ Valorant จะศึกษาแผนที่อย่างครอบคลุมเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ และพัฒนาการเล่นอยู่ตลอดเวลา

บทความไกด์ Valorant เพิ่มเติม
7 Crosshair สุดแปลกแต่ฮา เอาไว้เล็งคมๆ
Exclusive: something แห่ง Paper Rex เผยเคล็ดลับการไต่แรงค์
Valorant: รวมคำศัพท์ในเกมที่ผู้เล่นใหม่ต้องรู้
Champions 2023: รวมเมาส์เกมมิ่งของเหล่าโปรชั้นนำ
Exclusive: nAts เผยเทคนิคการ Lurk และการป้องกันไซต์แบบ Anchor ด้วย Cypher

รายชื่อแผนที่ Valorant ทั้งหมด

Bind

Credit: Riot Games

คุณลักษณะเฉพาะของ Bind คือการไม่มีบริเวณตรงกลางที่ตายตัว โดยแทนที่ด้วยเครื่องเทเลพอร์ตที่ทั้งสอง Site โดยอันหนึ่งเชื่อมต่อ A short กับ B short ในขณะที่อีกอันเชื่อม B Long กับ A lobby

โดยผู้เล่นจะสามารถเคลื่อนย้ายรอบแผนที่ได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้เครื่องเทเลพอร์ต ประตูปลายทางของเครื่องเทเลพอร์ตจะปิดอยู่ตลอด และมีเพียงผู้เล่นที่อยู่ข้างในเท่านั้นที่สามารถเปิดได้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายบุกรุกเข้ามาเวลาอยู่ข้างใน

Haven

Credit: Riot Games

Haven นำเสนอเอกลักษณ์ด้วยการมี 3 Site นอกจากนี้ ประตูบริเวณ Garage ยังสามารถทำลายได้ในขณะที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เมื่อได้รับความเสียหายเพียงพอ แผงเหล็กภายนอกจะถูกทำลาย ทำให้ผู้เล่นสามารถยิงทะลุกำแพงได้

Split

Credit: Riot Games, ONE Esports

Split นับเป็นแผนที่ที่ต้องพึ่งพากลยุทธ์เป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะที่ยากต่อการเล่น โดยแผนที่นี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่ช่องระบายน้ำและห้องเชื่อมบริเวณ Mid ที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนที่รอบแผนที่ได้เร็วขึ้น รวมถึงพื้นที่สูงในทั้งสอง Site

Ascent

Credit: Riot Games

Ascent เป็นแผนที่ที่มีประตูเลื่อนอยู่บริเวณ A Site และ B Market ซึ่งจะเปิดอยู่ในตอนเริ่มรอบ ซึ่งผู้เล่นสามารถกดปิดได้ อย่างไรก็ตาม ประตูมี HP อยู่ที่ 500 และสามารถถูกทำลายได้ในขณะที่ปิดอยู่ และเมื่อถูกทำลาย ประตูจะไม่สามารถใช้งานได้อีกตลอดรอบ

Icebox

Screenshot by Amanda Tan/ONE Esports

Icebox เปิดตัวนำเสนอสลิงโหนแนวนอนใน A Site ทำให้เป็นแผนที่ที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยพื้นที่การต่อสู้ที่ซับซ้อน มุมอับมากมาย แผนที่นี้จำเป็นต้องพึ่งความแม่นยำสูง กลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ และการต่อสู้ที่ดุเดือด

นอกจากนี้ แผนที่ยังมีพื้นที่สูงในทั้งสองไซต์ ซึ่งผู้เล่นสามารถขึ้นไปและวาง Spike ในบริเวณดังกล่าวได้

Breeze

Credit: Riot Games

Breeze นำเสนอลักษณะของแผนที่ที่มีลักษณะพิเศษ โดยเฉพาะกับ A Hall ที่ผู้เล่นสามารถมองเห็นกันได้ นอกจากนี้ ยังมีประตูเลื่อนตรงบริเวณ A Hall ที่ไม่สามารถยิงทะลุหรือทำลายได้ ซึ่งควบคุมโดยสวิตช์ทั้งสองด้าน

Fracture

Credit: Riot Games

Fracture มีการออกแบบที่โดดเด่นโดยมีทางเข้าของ Site ถึง 4 ทาง โดยจุดเด่นของแผนที่นี้คือการแบ่งแผนที่เป็นสองฝั่ง ทำให้ผู้เล่นสามารถคิดกลยุทธ์การบุกได้หลายรูปแบบ และสามารถโจมตีพร้อมกันทั้งสองฝั่งได้

ผู้เล่นฝ่ายโจมตีสามารถข้ามไปอีกฝั่งของแผนที่ด้วยการโหนสลิง ซึ่งในช่วงก่อนเริ่มรอบ ฝ่ายป้องกันจะไม่ได้ยินเสียงการใช้สลิง ซึ่งเป็นการเพิ่มองค์ประกอบทางยุทธ์ให้กับการเล่น

Pearl

Credit: Riot Games

Pearl เป็นแผนที่แบบ 2 Site และมีทางหลัก 3 ทางที่มีการออกแบบแบบดั้งเดิม ตรงกันข้ามกับแผนที่ที่ซับซ้อนเชิงกลยุทธ์ เช่น Icebox, Breeze และ Fracture

Pearl ไม่ได้มีองค์ประกอบที่โดดเด่นหรือเป็นเอกลักษณ์มากนัก ทำให้เป็น Pearl แผนที่ตรงไปตรงมาและไม่ซับซ้อน

Lotus

Credit: Riot Games

Lotus เป็นแผนที่ที่สองของ Valorant ที่มี 3 Site โดยนำเสนอเอกลักษณ์หลายอย่าง Lotus ต่างจาก Haven ตรงที่มี Ultimate Orb อันที่ 3 ซึ่งอยู่บริเวณหน้า B Site 

คุณสมบัติเด่น ได้แก่ เชือกสลิงที่ด้านหลังของ A Site เพื่อให้เข้าถึง A top ได้ง่ายๆ พื้นที่ดรอปหลัง A Site ที่จะไม่มีเสียงเวลาคุณลงจาก A Top ไปยัง A Drop

นอกจากนี้ Lotus ยังมีประตูหมุน โดยประตูหนึ่งอยู่ที่ A Site และอีกประตูหนึ่งอยู่ที่ด้านหน้าไซต์ C ซึ่งจะเชื่อมจาก C mound ไปยัง B Main

Sunset

Credit: Riot Games

Sunset เป็นแผนที่แบบดั้งเดิมที่มี 2 Site และ 3 ทางหลัก โดยมีประตูเลื่อนที่เอกลักษณ์ระหว่าง B Market และบริเวณตรงกลาง ซึ่งสามารถควบคุมประตูนี้โดยใช้สวิตช์ที่อยู่ฝั่ง B Market อย่างไรก็ตาม ประตูสามารถถูกทำลายได้

รายชื่อแผนที่ Valorant ทั้งหมดและสถานที่ในชีวิตจริง

Credit: Riot Games
แผนที่ สถานที่ในชีวิตจริงวันเปิดตัว
Bindโมร็อกโก (ราบัต)2 มิถุนายน 2020
Havenภูฏาน (ทิมพู)2 มิถุนายน 2020
Splitญี่ปุ่น (โตเกียว)2 มิถุนายน 2020
Ascentอิตาลี (เวนิส)2 มิถุนายน 2020
Iceboxรัสเซีย (เกาะ Bennett)13 ตุลาคม 2020
Breezeมหาสมุทรแอตแลนติก (สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา)27 เมษายน 2021
Fractureอเมริกา (นิวเม็กซิโก)8 กันยายน 2021
Pearlโปรตุเกส (ลิสบอน)22 มิถุนายน 2022
Lotusอินเดีย (เทือกเขาฆาฏตะวันตก)10 มกราคม 2023
Sunsetอเมริกา (ลอสแอนเจลิส)29 เมษายน 2023

ติดตามบทความข่าวสารและคอนเทนต์อีกมากมายได้ที่เว็บไซต์และ Facebook ของ ONE Esports

อ่านเพิ่ม: Valorant: รวมแผนที่ทั้งหมดที่เปิดให้เล่นในโหมด Competitive