ศึกใหญ่ครั้งแรกในฤดูกาล VCT 2023 ณ เมืองเซา เปาโล ประเทศบราซิล กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ถึง 4 มีนาคม
แต่ด้วยจำนวนทีม 30 ทีมจากลีกใหญ่ และ 2 ทีมจากจีน Riot Games จึงต้องนำรูปแบบการแข่งขัน single-elimination หรือแพ้คัดออกมาใช้ในศึกครั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของเวลาในการจัดงาน นั่นหมายความว่าต้องมีทีมกว่าครึ่งที่ต้องตกรอบจากการแข่งขันทันทีหลังจากแพ้แมตช์แรก
ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้ตอนนี้เหล่าแฟนๆและโปรบางกลุ่มรู้สึกไม่พอใจ ซึ่งมีหลายคนที่ออกมาวิจารณ์รูปแบบการแข่งขันของศึกครั้งนี้
เหล่าโปร Valorant ออกโรงวิจารณ์รูปแบบการแข่งขันศึก VCT Lock In São Paulo

Chet “Chet” Singh หัวหน้าโค้ชของ NRG Esports เปิดมาอย่างดุดัน โดยกล่าวว่าศึก Lock in São Paulo เป็นทัวร์นาเมนต์สุดห่วยแห่งปี
“เดินทางไปบราซิล ไม่มีข้อมูลของทีมอื่นเพราะเป็นแมตช์แรกของเมต้าใหม่ และมันเป็นการแข่งขันแบบแพ้ครั้งเดียวตกรอบ” Chet กล่าวผ่านทวิตเตอร์ “ช่างเป็นทัวร์นาเมนต์สุดห่วยสำหรับการจะเริ่มต้นปี”
รูปแบบการแข่งขันแบบ single-elimination ถูกเลือกใช้เพื่อให้ทีมจากภูมิภาคต่างๆได้มีโอกาสเจอกันมากขึ้น อ้างอิงจาก Riot โดยเมื่อสิ้นสุดรอบแบ่งกลุ่ม จะเหลือเพียงสี่ทีมที่ได้ผ่านเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะเป็นรอบที่ใช้ระบบการแข่งขันแบบ Bo5
รูปแบบการแข่งขันนี้หมายความว่าหลายทีมจะบินข้ามโลกไปยังบราซิล และอาจต้องกลับบ้านหลังจากเล่นเพียงสองแผนที่
“ต้องมีทีมกว่าครึ่งที่ต้องตกรอบหลังจากแพ้แมตช์แรก นั้นค่อนข้างแย่นะหลังจากฝึกฝนมา 1.5 เดือน” Kyrylo “ANGE1” Karasov ผู้เล่น IGL ของ Navi กล่าว
หลายต่อหลายทีมเพิ่งเปิดตัวไลน์อัพชุดใหม่ไป ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาในการเล่นร่วมกัน ในขณะเดียวกันที่โค้ชต้องคิดเมต้าใหม่สำหรับการแข่งขัน เนื่องจากตอนนี้เมต้า Chamber ได้หายไปแล้วหลังจากโดนเนิร์ฟ
อย่างไรก็ตาม แฟนๆจะได้รับชมแมตช์สุดเดือดตั้งแต่รอบแรกๆ เนื่องจากว่าทุกทีมจะต้องใส่สุดตั้งแต่รอบแรกๆหากไม่อยากออกจากการแข่งขันแบบรวดเร็ว